บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์ ทำให้ความสนใจจากนักลงทุนสถาบันกลับมาอย่างร้อนแรง พร้อมจุดกระแสการแข่งขันด้านการขุดที่เข้มข้นขึ้น ขณะที่บริษัทชื่อดังอย่างไมโครสตราเทจี(MSTR) ยังคงเดินหน้าไล่ซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีคู่แข่งรายใหม่ปรากฏตัวขึ้นในเวที ด้วยแนวทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ที่งาน Consensus 2025 บริษัทอเมริกัน บิตคอยน์ (American Bitcoin) ซึ่งก่อตั้งโดยเอริก ทรัมป์ บุตรชายของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เปิดเผยแผนการปรับลดต้นทุนการขุดบิตคอยน์ให้อยู่ที่ระดับ 37,000-38,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบันถึงสองในสาม เอริก ทรัมป์ แสดงความมั่นใจว่ากลยุทธ์ต้นทุนต่ำนี้จะทำให้สามารถแข่งขันและก้าวข้ามไมโครสตราเทจีได้ในระยะยาว
อเมริกัน บิตคอยน์เลือกใช้แนวทางที่แตกต่างจากบริษัทอื่น โดยไม่เน้นซื้อเหรียญจากตลาด OTC แต่เลือก ‘ขุด’ บิตคอยน์เองเพื่อลดค่าใช้จ่าย เอริกกล่าวว่า “การแข่งขันในตลาดบิตคอยน์มีสองทางหลัก คือการซื้อและการขุด เราจะชนะในสงครามการขุดด้วยประสิทธิภาพด้านต้นทุน”
ไมโครสตราเทจีปัจจุบันถือครองบิตคอยน์แล้วกว่า 568,000 BTC จากการเข้าซื้อสะสมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันอเมริกัน บิตคอยน์ต้องการสู้ด้วยการขุด โดยมีแผนลงทุนขยายธุรกิจขุดบิตคอยน์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แอชเชอร์ เจนูต ซีอีโอของบริษัท ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อเมริกัน บิตคอยน์มีเป้าหมายชัดเจนด้านการครองตลาดการขุดภายในไม่กี่ปี
แม้แผนการของบริษัทจะดูทะเยอทะยาน แต่หลายฝ่ายก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับ ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ เนื่องจากครอบครัวทรัมป์มีความเกี่ยวข้องกับวงการคริปโตอย่างลึกซึ้ง ทว่าเอริก ทรัมป์ไม่หวั่นต่อคำวิจารณ์ พร้อมระบุว่า เขาเชื่อมั่นว่าบิตคอยน์สามารถเข้ามา ‘แทนที่ SWIFT’ ซึ่งเป็นระบบการโอนเงินข้ามประเทศแบบเดิมได้ในระยะยาว
นักวิเคราะห์คริปโตที่ใช้นามแฝงว่าเอ็กซ์ตรา แสดงความคิดเห็นว่า ท่าทีล่าสุดของเอริก ทรัมป์ต่อบิตคอยน์และการต่อต้านระบบ SWIFT ไม่ใช่เพียงแค่คำโปรยเพื่อสร้างกระแส แต่ชี้ว่ากลุ่มทรัมป์กำลังใช้สภาพตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำและขาดข้อบังคับที่ชัดเจนในการสะสมสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยใช้แนวทางเชิงชาตินิยมเพื่อส่งเสริมบทบาทของสหรัฐฯ ในโลกคริปโต
สถานการณ์ที่บิตคอยน์ทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์ ทำให้สมรภูมิของนักลงทุนสถาบันไม่ใช่แค่การซื้อสะสมให้ได้มากที่สุดอีกต่อไป แต่เป็นการใช้กลยุทธ์ ‘ขุดให้ฉลาดกว่าใคร’ จึงน่าสนใจว่า แนวทางเน้น ‘ต้นทุนต่ำ-ขุดเอง’ ของอเมริกัน บิตคอยน์ จะสามารถเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์ของตลาดในอนาคตได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0