เครือข่ายพาย(Pi Network) เปิดตัวกองทุน 100 ล้านดอลลาร์ ดันโทเคน PI กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง

เครือข่ายพาย(Pi Network) กลับมาได้รับความสนใจจากตลาดอีกครั้ง หลังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่หลากหลายเกี่ยวกับ *ราคาโทเคน PI* ซึ่งเป็นโทเคนประจำเครือข่าย โดยล่าสุดได้มีการเปิดเผยความคืบหน้าสำคัญหลายประการที่อาจส่งผลต่อทิศทางของโครงการในอนาคตอันใกล้

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เครือข่ายพายได้ออกมาเปิดเผยว่า จะมีการประกาศสำคัญภายในวันดังกล่าว แม้ไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับการจดทะเบียน *PI* บนไบแนนซ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ไบแนนซ์ได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้ใช้เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำ *PI* เข้าจดทะเบียนในแพลตฟอร์มของตน

ตามมาด้วยหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดของปี ในวันที่ 14 พฤษภาคม เครือข่ายพายได้ประกาศเปิดตัวโครงการลงทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในชื่อ ‘Pi Network Ventures’ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัปและบริษัทที่สามารถส่งเสริมการใช้งาน PI และขยายเครือข่ายให้เติบโต

ทีมงานระบุว่า โครงการนี้ถูกวางรากฐานบน *ชุมชนไพโอเนียร์* โดยมุ่งเน้นการผลักดันให้เกิดการใช้งานจริง สร้างประโยชน์ภายในระบบนิเวศ และสร้างแรงขับเคลื่อนผ่านเครือข่ายที่เข้มแข็ง

โทเคน PI เริ่มซื้อขายในตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยในช่วงแรกได้ถูกจดทะเบียนในบิทเก็ตและ OKX และภายหลังตลาดอย่างคราเคนก็ได้เข้าร่วม ด้วยการเปิดให้ซื้อขาย *สัญญาฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุ* พร้อมเลเวอเรจสูงสุดถึง 20 เท่า

ข้อมูลจากตลาดล่าสุดชี้ให้เห็นถึงปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ จำนวนโทเคน PI ที่ถูกเก็บไว้ในกระดานเทรดลดลงอย่างรวดเร็ว โดยจากระดับเกือบ 400 ล้านโทเคนเมื่อต้นสัปดาห์ ลดลงเหลือต่ำกว่า 310 ล้านโทเคนในปัจจุบัน สำหรับ OKX โดยเฉพาะ มีการลดลงอย่างชัดเจนจาก 117 ล้านโทเคน เหลือเพียง 21.6 ล้านโทเคน

*ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์บางรายมองว่า การลดลงของโทเคนที่อยู่ในกระดานเทรด สะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนที่หันไปเก็บ PI ไว้ในกระเป๋าส่วนตัวแทน นั่นหมายถึงแรงขายในระยะสั้นอาจจะลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อตลาด

ราคาของโทเคน PI ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 0.78 ดอลลาร์ ซึ่งลดลง 10% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และหากเปรียบเทียบกับระดับสูงสุดในปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ 3 ดอลลาร์ ราคาปรับลดลงกว่า 74% อย่างไรก็ตาม ชุมชนและนักวิเคราะห์หลายรายยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางในระยะยาว

นักลงทุนควรจับตาสถานการณ์ในเดือนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ *โทเคน PI จำนวน 280 ล้านเหรียญสหรัฐจะถูกปลดล็อก* เข้าสู่ตลาด รวมถึงอีก 15.1 ล้านเหรียญที่จะถูกปลดในวันที่ 28 พฤษภาคม เหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่แรงขายที่เพิ่มขึ้นและกดดันราคาในระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ