อีเธอเรียม(ETH) พุ่งทะลุ 2,600 ดอลลาร์ รับกระแส ETF สเตกกิงหนุน

อีเธอเรียม(ETH) ปรับตัวขึ้น 3% ทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสตอบรับของตลาดต่อการที่ตลาดหลักทรัพย์ชิคาโกออปชัน (Cboe BZX) ได้ยื่นคำขอแก้ไขกองทุน ETF อีเธอเรียมแบบสปอตของ 21Shares โดยเพิ่มฟีเจอร์ ‘สเตกกิง’ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)

Cboe BZX ระบุในเอกสารที่ยื่นว่า การแก้ไขนี้จะอนุญาตให้กองทุนสามารถนำอีเธอเรียมที่ถืออยู่ไปทำ ‘สเตกกิง’ ได้ หากได้รับอนุมัติ ETF นี้อาจกลายเป็น ETF ตัวแรกในสหรัฐที่ให้ ‘รางวัลจากสเตกกิง’ แก่นักลงทุน ซึ่งอาจดึงดูดเม็ดเงินจากสถาบันการลงทุนเข้ามามากขึ้น เจมส์ เซย์เฟิร์ต (James Seyffart) นักวิเคราะห์ ETF จากบลูมเบิร์กกล่าวว่า “หากสถาบันสามารถรับผลตอบแทนจากสเตกกิงผ่าน ETF ได้โดยไม่ต้องดำเนินการเอง ก็อาจเพิ่มแรงจูงใจให้มีเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น”

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของราคายังได้รับแรงหนุนจากแรงกดดันในการปิดสถานะขายชอร์ตในตลาดฟิวเจอร์สของอีเธอเรียม ตามข้อมูลของ CoinGlass พบว่า ตั้งแต่วันที่ 12 เป็นต้นมา มีการปิดสถานะขายชอร์ตของ ETH มูลค่ากว่า 37 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นแรง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คล้ายกับช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อมีการบังคับปิดสถานะขายชอร์ตมูลค่า 68 ล้านดอลลาร์ และทำให้ราคาพุ่งทะลุ 3,500 ดอลลาร์ในขณะนั้น

แนวโน้มทางเทคนิคยังแสดงสัญญาณบวกสำหรับ ETH รายงานจาก 10X Research ระบุว่า ดัชนี RSI ของอีเธอเรียมร่วงลงมาที่ระดับ 36 ซึ่งคล้ายกับช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้วและต้นปีนี้ หากแนวโน้มเดิมเกิดซ้ำ ETH อาจพุ่งทะลุ 3,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง ขณะที่นักวิเคราะห์ออนเชน HCR เสริมว่า “ระดับ 2,900 ดอลลาร์อาจทะลุผ่านได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากมีการปิดสถานะขายชอร์ตเพิ่ม”

หาก ETH สามารถทะลุแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์ได้ นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่า ราคามีโอกาสพุ่งไปที่ 4,100 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ SEC และภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งทำให้นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น