แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดัง ไบบิท(Bybit) ได้ปรับปรุงระบบความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด หลังเผชิญเหตุ *แฮกครั้งใหญ่* เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายรวมสูงถึงประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49,000 ล้านบาท) โดยทางบริษัทระบุว่าได้ดำเนินการเสริมความปลอดภัยในหลายระดับเพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ไบบิทถูกแฮกเกอร์ขโมยสินทรัพย์คริปโตเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึง ลิควิดสเตกกิงอีเธอเรียม(STETH), แมนเทิลสเตกกิงETH(mETH) และโทเคนประเภท ERC-20 อื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้นับเป็นหนึ่งในกรณี *โจมตีระบบรักษาความปลอดภัยทางคริปโตครั้งใหญ่* และได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากอุตสาหกรรม เนื่องจากไบบิทถือเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 2 ของโลกตามปริมาณการซื้อขาย
ในวันที่ 4 มิถุนายน ไบบิทได้ชี้แจงผ่านเอกสารที่เผยแพร่ร่วมกับ Cointelegraph ว่า ได้ดำเนินการติดตั้งระบบความปลอดภัยใหม่โดยเน้น 3 แกนหลัก ได้แก่ ‘การตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มข้นขึ้น’, ‘การเพิ่มความปลอดภัยด้านกระเป๋าเงิน’ และ ‘การปรับปรุงกระบวนการจัดการข้อมูล’
ภายในหนึ่งเดือนหลังเหตุการณ์แฮก ไบบิทได้ดำเนินการตรวจสอบระบบทั้งหมดถึง 9 ครั้ง โดยร่วมมือทั้งกับผู้เชี่ยวชาญภายในบริษัทและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยภายนอก จากการตรวจสอบ ไบบิทได้จัดตั้ง *ระบบควบคุมความปลอดภัยใหม่* ขึ้นทั้งหมด 50 รายการ เพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“แนวทางนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเยียวยาความเสียหาย แต่คือการสร้างโครงสร้างความปลอดภัยที่สามารถตอบสนองต่อทุกวิกฤตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ไบบิทยืนยัน โดยระบุว่ามาตรการทั้งหมดถูกจัดทำขึ้นเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักเทรดและผู้ใช้งานต่อความปลอดภัยของแพลตฟอร์มอีกครั้ง
*ความคิดเห็น:* การที่ไบบิทลุกขึ้นมายกระดับความปลอดภัยอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่ลดความเสียหายซ้ำซ้อน แต่ยังส่งสัญญาณถึงตลาดว่าแพลตฟอร์มระดับโลกรู้จักเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง—ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นในโลกคริปโตที่ความมั่นคงเป็นเรื่องเปราะบางที่สุด.
ความคิดเห็น 0