บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่จำกัด ขณะที่ตลาด 'มีมคอยน์' กำลังมีสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง มูลค่าตลาดของมีมคอยน์ที่เคยแตะ 137,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.98 ล้านล้านบาท) ในเดือนธันวาคม ลดลงมาอยู่ที่ 67,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.43 ล้านล้านบาท) เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับมาฟื้นขึ้นกว่า 10% ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
นำทีมโดย ‘ออฟฟิเชียล ทรัมป์($TRUMP)’ และ ‘ด็อกวิฟแฮท($WIF)’ ซึ่งสามารถทะลุแนวต้านสำคัญทางเทคนิค พร้อมกับทำกำไรได้กว่า 20% โดยเฉพาะ $TRUMP ที่รักษาระดับแนวรับที่ 14 ดอลลาร์ ก่อนพุ่งขึ้นเหนือ 20 ดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าสาเหตุหนึ่งมาจากจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สนับสนุนอุตสาหกรรมเว็บ3
ขณะที่ ‘ด็อกวิฟแฮท($WIF)’ เคยเผชิญแรงวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากทำสถิติราคาสูงสุดที่ 4.83 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน แล้วร่วงลงเกือบ 88% แต่ล่าสุดสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมา 20% และหากยังคงรักษาระดับแนวรับที่ 0.55 ดอลลาร์ ก็อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
อีกหนึ่งโครงการใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจคือ ‘BTC บูล โทเคน($BTCBULL)’ โทเคนมีมที่ทำงานบนเครือข่ายอีเธอเรียม โดยนำเสนอกลไกการลดอุปทานผ่านอีเวนต์แอร์ดรอปและการเผาเหรียญเมื่อราคาบิตคอยน์แตะระดับเป้าหมาย เช่น หาก BTC พุ่งแตะ 150,000 ดอลลาร์หรือ 200,000 ดอลลาร์ จะมีการแจก BTC ให้ผู้ถือเหรียญ และเมื่อ BTC แตะ 125,000 ดอลลาร์หรือ 175,000 ดอลลาร์ $BTCBULL ก็จะถูกเผาเพื่อลดซัพพลาย
ปัจจุบัน การเปิดขายล่วงหน้าของ BTCBULL เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยสามารถระดมทุนได้กว่า 1.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 49 ล้านบาท) ภายในเวลาไม่กี่วัน ราคาขายในช่วงแรกกำหนดไว้ที่ 0.00236 ดอลลาร์ และจะปรับขึ้นเป็นระยะ นอกจากนี้ ผู้ถือ BTCBULL ยังสามารถนำเหรียญไปสเตกเพื่อรับผลตอบแทนสูงสุด 287% ต่อปี
แม้ว่าตลาดมีมคอยน์กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งจากโครงการที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วและโปรเจกต์ใหม่ที่เกิดขึ้น แต่ความผันผวนก็ยังคงสูง นักลงทุนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบในการลงทุน
ความคิดเห็น 0