แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของโลก ไบแนนซ์ ปรับเปลี่ยนบริการบางส่วนบนแพลตฟอร์ม ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่ออัลท์คอยน์หลายรายการ โดยครั้งนี้เน้นไปที่การเพิ่มสินทรัพย์ในการให้บริการกู้ยืมระดับ VIP และการถอดคู่ซื้อขายบางรายการออก ส่งผลให้ราคาเหรียญที่เกี่ยวข้องหลายตัวร่วงลง
ล่าสุด ไบแนนซ์ได้เพิ่มโปรโตคอลนิวตัน(NEWT) และซาฮารา เอไอ(SAHARA) ลงในรายการสินทรัพย์สำหรับบริการกู้ยืมแบบ VIP ซึ่งเป็นบริการที่เปิดให้ผู้ถือครองเหรียญสามารถนำมาเป็นหลักประกันเพื่อกู้เงินในวงเงินขนาดใหญ่ โดยเน้นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่หรือสถาบันอย่างไรก็ตาม แม้ปกติการประกาศสนับสนุนจากไบแนนซ์มักทำให้ราคาเหรียญปรับตัวขึ้น แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม โดยราคา NEWT ลดลง 7% และ SAHARA ร่วงถึง 11% หลังการประกาศ
ในเวลาเดียวกัน ไบแนนซ์ยังประกาศว่า จะถอดคู่ซื้อขายแบบสปอตจำนวน 4 คู่ ได้แก่ ACT/EUR, FIO/BTC, TNSR/FDUSD และ TST/FDUSD ออกจากแพลตฟอร์มในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ การถอดคู่ซื้อขายเช่นนี้ มักจะส่งผลต่อสภาพคล่องและความสามารถในการเข้าถึงของนักลงทุน ซึ่งอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในโครงการ โดย FIO เป็นหนึ่งในเหรียญที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน โดยภายในวันเดียวหลังประกาศ ราคาของ FIO ดิ่งลงกว่า 8%
กรณีลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน ไบแนนซ์ได้ยกเลิกการสนับสนุนเหรียญหลายรายการ เช่น อัลปาก้า ไฟแนนซ์(ALPACA), เพลย์แดบ(PDA), ไวบ์เรต(VIB) และวิง ไฟแนนซ์(WING) ส่งผลให้ราคาเหรียญเหล่านั้นร่วงลงเป็นตัวเลขสองหลัก และเมื่อไบแนนซ์ถอนเหรียญ CREAM และอีก 13 โครงการออกจากแพลตฟอร์ม บางเหรียญร่วงลงเกือบ 60%
นักวิเคราะห์มองว่า การสนับสนุนหรือยกเลิกสนับสนุนจากแพลตฟอร์มรายใหญ่ เช่น ไบแนนซ์ มีผลโดยตรงต่อสภาพคล่องและระดับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างแรงกระแทกให้กับตลาดโดยทันที
แม้ว่าไบแนนซ์จะชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเป้าหมายในด้านยุทธศาสตร์ เช่น การบริหารจัดการความเสี่ยงของเหรียญใหม่, การบริหารสภาพคล่อง และการเพิ่มประสิทธิภาพของคู่ซื้อขาย แต่ในระยะสั้น เหรียญที่ได้รับผลกระทบอาจเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก นักลงทุนควรจับตาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินสถานะของสินทรัพย์ที่ถือครองและปรับแผนการลงทุนให้สอดรับกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
ความคิดเห็น 0