โซลานา(SOL) ถูกวิจารณ์หนักเรื่องมีมคอยน์ เมิร์ต มุมทาซ ลั่นไม่ใช่แค่แหล่งเก็งกำไร

โซลานา(SOL) กำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเก็งกำไรใน ‘มีมคอยน์’ อย่างร้อนแรง ขณะที่ เมิร์ต มุมทาซ(Mert Mumtaz) ซีอีโอของ เฮลิอุส แล็บส์(Helius Labs) ออกมาปกป้อง โดยยืนยันว่าโซลานาไม่ควรได้รับการมองว่าเป็นแหล่งรวมสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร พร้อมโต้แย้งว่าเหตุการณ์ฉ้อโกงที่เกิดขึ้นไม่ควรลดทอนคุณค่าของบล็อกเชนโดยรวม

เครือข่ายโซลานาได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลังจากมีมคอยน์ที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีทรัมป์ เช่น ‘ทรัมป์ ออฟฟิเชียล(TRUMP)’ และ ‘เมลาเนีย มีม(MELANIA)’ รวมถึงโทเคนใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม มีมคอยน์บางตัวกลับถูกกล่าวหาว่ามีการปั่นราคาและทำธุรกรรมภายใน ส่งผลให้ผู้ลงทุนรายย่อยต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะโทเคน 'ลิบรา(LIBRA)' ที่เคยได้รับแรงสนับสนุนจากประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินา และมีมูลค่าตลาดพุ่งสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะร่วงลงถึง 90% หลังถูกถอนการสนับสนุน

มุมทาซกล่าวว่า “นักพัฒนาจำนวนมากกำลังถูกมองข้ามเนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพเพียงไม่กี่คน” พร้อมย้ำว่า “แม้อาชญากรจะต้องรับโทษ แต่ภาคเทคโนโลยีจะยังคงเดินหน้าพัฒนาและสร้างนวัตกรรมต่อไป” นอกจากนี้ เขายังโต้แย้งคำกล่าวอ้างที่ว่าโซลานาเป็นเพียง ‘คาสิโนมีมคอยน์’ โดยชี้ว่าศักยภาพของบล็อกเชนครอบคลุมตั้งแต่ ‘การเรนเดอร์ GPU, ระบบชำระเงินแบบส่วนตัว, การโทเคนอสังหาริมทรัพย์ และระบบบริหารจัดการบนเชน’

สถานการณ์การลงทุนในมีมคอยน์ของโซลานามีความคล้ายคลึงกับยุค ICO บูมในปี 2017 บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งแม้ว่าจะมีโครงการฉ้อโกงมากมาย แต่ในระยะยาว อีเธอเรียมก็สามารถเติบโตขึ้นในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับ ‘สมาร์ตคอนแทรกต์’ ได้ มุมทาซเน้นว่า “ทุกอุตสาหกรรมล้วนต้องเผชิญกับกลุ่มคนที่หวังหาประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญคือการพิจารณาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโดยรวม”