คาอิโตะ AI(Kaito AI) เตรียมแอร์ดรอป 20% ของโทเคน จุดกระแสคาดหวังและกังวลในหมู่นักลงทุน

카이토 AI(Kaito AI) ได้จัดสรร 20% ของปริมาณโทเคนทั้งหมดสำหรับแอร์ดรอปและสิ่งจูงใจ ซึ่งสร้างทั้งความคาดหวังและความกังวลในหมู่ผู้ลงทุนเริ่มต้น

โดยคาอิโตะ AI เป็นแพลตฟอร์มให้ข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตที่ตั้งเป้าเป็น ‘ศูนย์กลางข้อมูล Web3’ ทั้งนี้ แอร์ดรอปแรกของบริษัทจะกระจาย 10% ของอุปทานทั้งหมดไปยังสมาชิกชุมชนและผู้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศ ตามที่บริษัทประกาศผ่านบัญชี X (เดิมคือ Twitter) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ว่า "เราจะกระจาย 10% ของโทเคนให้แก่สมาชิกชุมชนกลุ่มแรก, ผู้ถือ Genesis NFT และพันธมิตรของเรา"

คาอิโตะ AI ได้กำหนดให้ 56.6% ของโทเคนทั้งหมดถูกใช้เพื่อขยายระบบนิเวศและชุมชน โดยในจำนวนนี้ 19.5% จะถูกใช้สำหรับแอร์ดรอปและสิ่งจูงใจในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่อาจเปลี่ยนโครงสร้างการกระจายโทเคนของบริการ Web3 อื่น ๆ ตามที่ มาร์ซิน คาซีเมียร์แซค(Marcin Kazmierczak) ผู้ร่วมก่อตั้ง RedStone บริษัทโซลูชันบล็อกเชน ออราเคิล ระบุว่า “คาอิโตะ AI ได้เปลี่ยนแนวคิดจากการตลาดที่อิงปริมาณการเข้าชม มาเป็นการสร้างเครือข่ายผู้ติดตามที่มีคุณภาพ หรือ ‘Smart Followers’ ซึ่งช่วยให้สามารถวัดปฏิสัมพันธ์ที่แท้จริงกับบัญชีคริปโตที่มีอิทธิพล”

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างการจัดสรรโทเคนก็มีอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะสัดส่วนที่ถูกจัดสรรให้ทีมงานและนักลงทุนเริ่มต้น นำไปสู่ความเป็นไปได้ที่ความกดดันด้านการขายจะเกิดขึ้นในช่วงแรก ตามข้อมูลจาก RunnerXBT นักวิเคราะห์สายออนเชน ระบุว่า คาอิโตะ AI ได้จัดสรร 43.3% ของอุปทานโทเคนทั้งหมดให้แก่ทีมงานและนักลงทุนเริ่มต้น แบ่งเป็น 35% สำหรับทีม และ 8.3% สำหรับนักลงทุนกลุ่มแรก

ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า โทเคนของ คาอิโตะ AI อาจแสดงรูปแบบแอร์ดรอปทั่วไป ซึ่งมักจะมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงแรกก่อนที่จะเกิดแรงขายจำนวนมาก โดยแอนดี้ เหลียน(Anndy Lian) ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนและนักเขียนสายคริปโต ระบุว่า "มีโอกาสที่ราคาของโทเคนจะเพิ่มขึ้นจากกระแสความคาดหวังในช่วงต้น แต่ราคาก็อาจเผชิญกับแรงขายจำนวนมากหลังจากนั้น" พร้อมทั้งเสริมว่า “แม้ว่าสภาพคล่องและอุปทานจากนักลงทุนในช่วงแรกจะทยอยเข้าสู่ตลาด แต่มีความเป็นไปได้สูงที่แนวโน้มขาขึ้นจะไม่ยั่งยืน”

เหตุการณ์แอร์ดรอปยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในตลาดคริปโต แต่มักมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับแรงกดดันด้านการขายจากกลุ่มภายใน คาอิโตะ AI จะสามารถสร้างความไว้วางใจและพัฒนาระบบนิเวศในระยะยาวได้หรือไม่ ยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตามอง