ผู้เชี่ยวชาญเตือน: สหรัฐฯ เสี่ยงเสียผู้นำคริปโตหากไม่เร่งวางกรอบกฎหมาย

สหรัฐฯ ยังมีโอกาสรักษาความเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านกฎระเบียบคริปโตระดับโลก แต่หน้าต่างแห่ง *โอกาส* นี้อาจไม่เปิดอยู่นาน เสียงเรียกร้องให้เร่งจัดระเบียบกรอบกฎหมายอย่างเป็นระบบชัดเจนจึงเริ่มกระหึ่มในเวทีอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ 24 ในงานสัมมนา Wyoming Blockchain Symposium ซิลเวีย ฟาฟเรตโต(Sylvia Favretto) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของมิสเทนแล็บส์(Mysten Labs) บริษัทผู้พัฒนาเครือข่ายซุย(SUI) กล่าวว่า แม้กฎหมายตลาดสินทรัพย์คริปโตของสหภาพยุโรป (MiCA) เริ่มบังคับใช้แล้ว แต่ *สหรัฐฯ ยังมีเวลาให้ไล่ตามทัน*. พร้อมกับเตือนว่า *เวลาเหลือน้อยลงเรื่อยๆ* และจำเป็นต้องเร่งแก้ไขนโยบายเพื่อจัดระเบียบตลาดโดยเร็ว

ด้านสจ๊วต อัลเดอโรตี(Stuart Alderoty) ประธานฝ่ายกฎหมายของริปเปิล(XRP) ก็ร่วมย้ำความกังวลเดิมว่า หากสหรัฐฯ ยังไม่เริ่มดำเนินการอาจตกขบวนในเวทีโลก โดยเขาเชื่อว่า *หากสร้างโครงสร้างตลาดให้พร้อมในขณะนี้* จะสามารถ *คว้าความได้เปรียบในตลาดระดับโลก*. แต่ถ้ารัฐบาลกลับไปใช้ท่าทีเป็นศัตรูกับนวัตกรรมอีก ก็เสี่ยงถูกแซงหน้าโดยยุโรป เอเชีย หรือแม้แต่ตะวันออกกลาง

หลายปีที่ผ่านมา กรอบนโยบายควบคุมคริปโตของสหรัฐฯ ยังคงคลุมเครือ โดยเฉพาะการแย่งกันอ้างอำนาจระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้า(CFTC) ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรม ซึ่ง *อาจบีบบริษัทคริปโตต้องย้ายออกไปหาสภาพแวดล้อมที่มีกฎเกณฑ์ชัดเจนกว่า* เพื่อเติบโต

ภายในเวทีสัมมนาครั้งนี้ ยังมีการกล่าวถึงท่าทีสนับสนุนคริปโตของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่เคยให้คำมั่นไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม มี *ความเห็น* ว่า หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลในอนาคต โดยไม่สามารถรับประกันความต่อเนื่องของนโยบายได้ สหรัฐฯ อาจ *สูญเสียบทบาทความเป็นผู้นำด้านกฎระเบียบไปอย่างสิ้นเชิง*

แม้บางฝ่ายยังเชื่อว่า *สหรัฐฯ ไม่ได้สายเกินไป* เมื่อเทียบกับยุโรป เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง แต่ก็เริ่มเห็นพ้องกันว่า *หน้าต่างแห่งโอกาสกำลังปิดลงอย่างรวดเร็ว*. หากยังคงดำเนินการล่าช้าและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน สหรัฐฯ อาจเปลี่ยนจากศูนย์กลางอุตสาหกรรมบล็อกเชนระดับโลกไปสู่การเป็นผู้ตามในระยะเวลาไม่นาน