มิงซิงกรุ๊ปทุ่ม 483 ล้านดอลลาร์ซื้อบิตคอยน์(BTC) 4,250 เหรียญ ส่อกระทบสัดส่วนผู้ถือหุ้น

บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของฮ่องกง มิงซิงกรุ๊ปโฮลดิงส์(Ming Shing Group Holdings) ประกาศผ่านการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กว่าได้ลงนามในสัญญาซื้อขายขนาดใหญ่เพื่อจัดซื้อ *บิตคอยน์(BTC) จำนวน 4,250 เหรียญ* คิดเป็นมูลค่ารวม 483 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,717 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการถือครองบิตคอยน์ในระดับสูงสุดในบรรดาบริษัทของฮ่องกง หากดีลนี้สำเร็จ มิงซิงจะกลายเป็นบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดของฮ่องกง แซงหน้า Bouya Interactive International ที่ปัจจุบันถืออยู่ 3,350 BTC

เหวินจิ้น ลี(Wenjin Li) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมิงซิง กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตของบิตคอยน์ซึ่งเป็น *สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง* จึงตัดสินใจลงทุนในครั้งนี้ โดยเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อคุณภาพของสินทรัพย์ในงบดุล อย่างไรก็ตาม การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทมีปัญหาทางการเงิน โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มิงซิงประสบ *ผลขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 5.35 ล้านดอลลาร์* และมีอัตรากำไรสุทธิที่ -3.9%

ดีลบิตคอยน์ดังกล่าวไม่ได้ใช้เงินสด แต่จะดำเนินการผ่านการออก *หุ้นกู้นิรันดร์แปลงสภาพ (CB)* และ *หุ้นกู้พร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิ (BW)* บริษัทจะออกหุ้นกู้นิรันดร์แปลงสภาพอายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 3% และใบสำคัญแสดงสิทธิแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ในราคา 1.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น มีอายุ 12 ปี ซึ่งหากนับตามจำนวนหุ้นที่สามารถออกได้ จะรวมกว่า *424 ล้านหุ้น*

การทำธุรกรรมเกิดขึ้นระหว่างสองบริษัทที่จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน กล่าวคือ บริษัท Winning Mission Group จะขายบิตคอยน์ 4,250 เหรียญให้มิงซิง แลกรับหุ้นกู้นิรันดร์แปลงสภาพมูลค่า 241 ล้านดอลลาร์ และวอร์แรนต์อีก 201 ล้านหุ้น ขณะที่อีกบริษัทหนึ่งชื่อว่า Rich Plenty Investment จะได้รับเครื่องมือการลงทุนประเภทเดียวกันจากมิงซิง เพื่อนำไปออกตั๋วสัญญาใช้เงินซื้อต่อจาก Winning Mission อีก 2,125 BTC

สิ่งที่น่ากังวลคือ *ความเสี่ยงด้านการถูกลดสัดส่วนการถือหุ้น (Dilution)* อย่างหนัก ปัจจุบันมิงซิงมีหุ้นในตลาดไม่ถึง 13 ล้านหุ้น แต่หากแปลงหุ้นกู้นิรันดร์ทั้งหมดเป็นหุ้นสามัญ จำนวนหุ้นรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น *กว่า 415 ล้านหุ้น* ทำให้ *ผู้ถือหุ้นเดิมเหลือสัดส่วนเพียง 3.1%* และหากรวมการแปลงวอร์แรนต์และดอกเบี้ย ก็อาจพุ่งถึง *939 ล้านหุ้น* เท่ากับว่า *สัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิมอาจลดลงเหลือเพียง 1.4%* ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้รับอนุมัติให้เพิ่มหุ้นได้เพียง 100 ล้านหุ้นเท่านั้น

ถึงแม้ข่าวการจัดซื้อบิตคอยน์จำนวนมากจะส่งผลเชิงบวกในระยะสั้น ราคาหุ้นของมิงซิงพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 2.15 ดอลลาร์ในวันประกาศ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 1.65 ดอลลาร์ แต่ก็ยังเพิ่มขึ้น *11.5% จากวันก่อนหน้า* อย่างไรก็ตาม มูลค่าหุ้นยังคงอ่อนกำลังในมุมมองระยะยาว โดยในรอบปีที่ผ่านมาร่วงลง *70.5%* และในช่วงหนึ่งเดือนลดลง *44%* ขณะที่ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ราคาตกลงอีก *24%*

*ความคิดเห็น*: กลยุทธ์ด้านการเงินของบริษัทที่เน้นการลงทุนในคริปโต เช่น กรณีของมิงซิง สะท้อนว่าความนิยมในการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเก็บมูลค่าหรือหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นนั้นเริ่มเป็นที่แพร่หลาย แต่หากโครงสร้างทางการเงินยังไม่มั่นคง ก็อาจ *กระทบสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น* ได้ในที่สุด