บล랙ร็อกขายคริปโตมูลค่า 5,085 ล้านบาท ตลาดหวั่นเทขายสถาบันถล่มราคาบิตคอยน์(BTC)-อีเธอเรียม(ETH)

บล랙ร็อก(BlackRock) บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างกระแสความกังวลในตลาดคริปโต หลังพบว่ามีสัญญาณการขายคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่าราว 5,085 ล้านบาท ซึ่งรวมถึง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือว่าสวนทางกับภาพลักษณ์ของบล랙ร็อกที่เคยเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในภาคการเงินดั้งเดิม

ข้อมูลจาก LookOnChain แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลออนไชน์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม บล랙ร็อกได้โอน *บิตคอยน์* ประมาณ 1,885 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 1,553 ล้านบาท และ *อีเธอเรียม* อีกกว่า 59,606 เหรียญ มูลค่าประมาณ 3,532 ล้านบาท ไปยังบัญชี Coinbase Prime ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การโอนสินทรัพย์ขนาดใหญ่เข้าสู่กระดานเทรดมักถูกตีความว่าเป็น *สัญญาณขาย*

นักวิเคราะห์บางส่วนให้ความเห็นว่า บล랙ร็อกอาจกำลัง *ทำกำไรจากสภาวะราคาผันผวน* เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ราคาของ *บิตคอยน์* และ *อีเธอเรียม* ต่างเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่บล랙ร็อกเป็นผู้นำในการผลักดันผลิตภัณฑ์ ETF ด้านคริปโตสำหรับนักลงทุนสถาบัน การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ*

นอกจากนี้ การโอนเหรียญดังกล่าวยังถือเป็นครั้งแรกที่ *กระแสเงินไหลเข้าสุทธิรายวันของบล랙ร็อกหยุดชะงัก* ส่งผลให้นักลงทุนจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้บล랙ร็อกจะไม่ได้เปิดเผยจุดประสงค์ที่แน่ชัด แต่การเลือกใช้กระเป๋า Coinbase Prime ซึ่งเป็นกระดานเทรดชั้นนำ เพิ่มความระแวดระวังให้กับตลาดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ตลาดกำลังเปราะบาง

ขณะเดียวกัน ยังมีอีกมุมมองที่เสนอว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ *การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน* ที่ไม่ได้มีเจตนาขายออกจริงจัง แต่อาจเป็นเพียงการกระจายความเสี่ยงหรือปรับกลยุทธ์จัดการทรัพย์สินในช่วงที่ตลาดผันผวน

สิ่งที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ การกระทำของบล랙ร็อกอาจ *ส่งสัญญาณถึงสถาบันอื่นๆ* ซึ่งมีแนวโน้มปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน เพราะในโลกของการเงินดั้งเดิม บล็คร็อกถือเป็นตัวแทนของแนวทางการลงทุนที่มีอิทธิพลอย่างสูง

หลังจากข่าวการโอนคริปโตของบล็คร็อกเผยแพร่ ราคาของ *บิตคอยน์* และ *อีเธอเรียม* ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งกระตุ้น *ความไม่มั่นใจของนักลงทุน* และก่อให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับ *การเทขายเพิ่มเติมจากสถาบันอื่นๆ* อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะมีการเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของดีลครั้งนี้ ตลาดคริปโตอาจยังต้องเผชิญความผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่ง