เพนซิลเวเนียเสนอร่างกฎหมายห้ามเจ้าหน้าที่รัฐถือครองคริปโต หวังสกัดผลประโยชน์ทับซ้อน

เบน แวกซ์แมน(Ben Waxman) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ได้ยื่นร่างกฎหมายใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อ *ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านคริปโตเคอร์เรนซี* โดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่อง *กรณีทุจริตในระดับรัฐบาลกลาง* โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกับทรัมป์

เมื่อวันที่ 3 แวกซ์แมนพร้อมด้วยสมาชิกพรรคเดโมแครตอีก 8 คน ร่วมกันยื่นร่างกฎหมาย HB1812 ซึ่งมีเนื้อหาชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่รัฐในเพนซิลเวเนียจะ *ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เหรียญดิจิทัลเพื่อแสวงหาประโยชน์* ไม่ว่าจะเป็นการออกเหรียญใหม่ การทำการตลาด หรือการทำธุรกรรม โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้ความตั้งใจในการขจัด *ความขัดแย้งทางผลประโยชน์* ให้หมดไปจากการทำงานภาครัฐ

เบื้องหลังของกฎหมายดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีของประธานาธิบดีทรัมป์และเหรียญ 'ออฟฟิเชียล ทรัมป์(TRUMP)' ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นตัวอย่างของการใช้โครงการคริปโตเพื่อแสวงหา *ผลประโยชน์ส่วนตัว* ระหว่างดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว ขณะที่แวกซ์แมนแสดงความเห็นว่า ทรัมป์กำลังใช้ *อำนาจรัฐในการกลบเกลื่อนโครงการคริปโตที่เข้าข่ายหลอกลวง*

การเสนอ HB1812 ยังสอดรับกับความเคลื่อนไหวของสมาชิกรัฐสภาระดับรัฐบาลกลางจากพรรคเดโมแครต ที่กำลังหารือเพื่อออกกฎหมายห้ามประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง *ออกเหรียญ โปรโมต หรือถือสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ* ซึ่งยิ่งส่งสัญญาณถึงจุดยืนใหม่ด้านความโปร่งใสของภาครัฐในยุคดิจิทัล

หาก HB1812 ได้รับการอนุมัติ กฎหมายจะมีผลให้เจ้าหน้าที่รัฐในรัฐเพนซิลเวเนีย รวมถึงครอบครัวในสายตรง *ห้ามทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตมูลค่าเกิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ* ทั้งในระยะเวลาดำรงตำแหน่งและภายหลังพ้นตำแหน่งเป็นเวลา 1 ปี อีกทั้งต้อง *จำหน่ายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือครองอยู่ภายใน 90 วัน* นับจากวันที่กฎหมายมีผล ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจถูกปรับสูงสุดถึง 50,000 ดอลลาร์ หรือจำคุกได้สูงสุด 5 ปี

แวกซ์แมนยืนกรานว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางการเมือง แต่เป็นความพยายามที่จริงจังในการป้องกัน *การเชื่อมโยงอันตรายระหว่างอำนาจทางการเมืองกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล* ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างให้กับรัฐอื่น รวมถึงระดับรัฐบาลกลางในอนาคต