ไมโครสเตรเทจี(MSTR) ยันกลยุทธ์ซื้อบิตคอยน์(BTC) ไม่ดันราคา หวังลดแรงกระเพื่อมตลาด

ชิริช จาโจเดีย หัวหน้าฝ่ายบริหารสินทรัพย์บิตคอยน์(BTC) ของบริษัทจดทะเบียนในแนสแด็ก ไมโครสเตรเทจี(MSTR) เปิดเผยว่ากลยุทธ์การซื้อบิตคอยน์ของบริษัทนั้น *ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อราคาตลาด* ซึ่งนับเป็นการแสดงจุดยืนชัดเจนต่อแนวคิดที่ว่า “การซื้อของสถาบัน = การดันราคา” ที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในวงการคริปโต

ในการให้สัมภาษณ์ผ่านพอดแคสต์ของ Coin Stories จาโจเดียกล่าวว่า “เราไม่มีผลต่อราคาบิตคอยน์เวลาเราซื้อ” พร้อมเสริมว่า กลยุทธ์การซื้อของไมโครสเตรเทจีนั้น *ดำเนินการอย่างรอบคอบและไม่เปิดเผย* เพื่อไม่ให้ตลาดรับรู้สัญญาณใดๆ ล่วงหน้า

ไมโครสเตรเทจีเริ่มสะสมบิตคอยน์อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2020 โดยปัจจุบันถือครองอยู่ทั้งหมด 629,376 BTC คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาดราว 70,850 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 984,765 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการถือครองบิตคอยน์ในระดับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสังเกตในหมู่นักลงทุนว่า การเคลื่อนไหวของสถาบันขนาดใหญ่มักส่งผลต่อราคาบิตคอยน์ในระยะสั้น โดยเฉพาะในช่วงที่ไมโครสเตรเทจียื่นมือเข้าซื้อ ราคา BTC ก็มักพุ่งขึ้นตามไปด้วย เสริมแรงให้กับแนวคิดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จาโจเดียยืนยันว่า บริษัทเน้นลดการปะทะกับตลาด พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบด้านสภาพคล่องก่อนตัดสินใจซื้อขายเสมอ

แม้จะมีความพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดโดยตรง ทว่าเพียงแค่การมีอยู่ของผู้เล่นระดับสถาบันอย่างไมโครสเตรเทจีก็เพียงพอที่จะส่งสัญญาณเชิงบวกได้แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่าการเข้าซื้อของสถาบันเป็นมากกว่าการลงทุน แต่ยังเป็น *“สัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่น”* ที่สามารถขับเคลื่อนอารมณ์ของนักลงทุนในเชิงมหภาคได้

ในอีกด้านหนึ่ง ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสเตรเทจี ซึ่งเป็นทั้ง *ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์* และ *บิตคอยน์แม็กซิมอลลิสต์* ก็มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายสะสมบิตคอยน์ของบริษัท โดยหลายฝ่ายมองว่าวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งของเขาคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของกลยุทธ์นี้