เวเนซุเอลาแห่ใช้คริปโตรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ การใช้งานพุ่ง 110% ใน 1 ปี

ในเวเนซุเอลา 'คริปโตเคอร์เรนซี' กำลังกลายเป็นเสาหลักหนึ่งของเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางการล่มสลายของมูลค่าเงินตราและการควบคุมเงินทุนอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาล ทำให้พลเมืองหันมาใช้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางการเงินของตนเอง ส่งผลให้คริปโตก้าวขึ้นมาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการอยู่รอดของทั้งบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจ

ปัจจุบันมีร้านค้าจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านค้ารายย่อยในครอบครัวหรือเชนค้าปลีกขนาดใหญ่ในเวเนซุเอลา ที่รับชำระเงินผ่าน **บิตคอยน์(BTC)** และ **เทเธอร์(USDT)** โดยใช้แพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Binance และ Airtm นอกจากนั้นยังพบกรณีที่บริษัทใช้ **สเตเบิลคอยน์** จ่ายค่าจ้างให้กับพนักงาน เพิ่มความมั่นคงทางรายได้ในสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน ขณะเดียวกัน สถาบันการศึกษาหลายแห่งยังเริ่มเปิดหลักสูตรเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในระดับสถาบัน

วิกเตอร์ โซซา ชาวกรุงการากัสเล่าว่า เขาใช้ **เทเธอร์(USDT)** ซื้ออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ พร้อมกล่าวว่า “ตอนนี้ใครๆ ก็รับคริปโต” และเปิดเผยแผนในอนาคตว่า “ผมตั้งใจจะฝากเงินทั้งหมดไว้ในคริปโต เพราะการถือเงินสดถือเป็นความเสี่ยงที่แท้จริง”

ตามดัชนีการใช้งานคริปโตทั่วโลกปี 2024 ที่เผยแพร่โดยบริษัท Chainalysis ผู้วิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน เวเนซุเอลารั้งอันดับ 13 ของโลกในด้าน ‘การเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซี’ และการใช้งานเพิ่มขึ้นเกือบ **110% ภายในเวลา 1 ปี** ทำให้ประเทศกลายเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับอาร์เจนตินาและไนจีเรีย

แม้ธนาคารกลางเวเนซุเอลาจะแสดงท่าทีต้องการควบคุมการใช้คริปโต แต่ในความเป็นจริง คริปโตได้เข้ามาทำหน้าที่เป็น ‘สกุลเงินทางเลือก’ ที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง ความเคลื่อนไหวนี้ยังอาจชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่จะเกิดการเปลี่ยนผ่านระบบการเงินสู่คริปโตในระดับภูมิภาคลาตินอเมริกาในอนาคตอันใกล้.