มูลค่าทะลุ 1.44 ล้านล้าน! บล็อกเชนหนุนโทเคนไรซ์สินทรัพย์ลดคาร์บอนใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

การผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับการลดการปล่อยคาร์บอนกำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล โดยล่าสุดมีกรณีการ *โทเคนไรซ์* ทรัพย์สิน ESG ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเกิดขึ้นแล้ว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทอาร์คส์ เวริตัส ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการโทเคนไรซ์ทรัพย์สินลดการปล่อยคาร์บอน จับมือกับบริษัทโครงสร้างพื้นฐานบลูเบิร์ด ประกาศว่าได้ทำการ *โทเคนไรซ์* สินทรัพย์ลดการปล่อย (Emission Reduction Assets: ERA) มูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.44 ล้านล้านบาท ลงบนเครือข่ายบล็อกเชนเรดเบลลี ซึ่งเป็นของบลูเบิร์ด การดำเนินการดังกล่าวประเมินว่าช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 394 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นระดับ *สูงสุดในประวัติศาสตร์ของสินทรัพย์ดิจิทัล*

ERA ที่ถูกนำมา *โทเคนไรซ์* นี้ ได้มาจากการปิดผนึกโรงกลั่นน้ำมันที่ไม่ได้ใช้งาน และการเลิกดำเนินงานเหมืองถ่านหิน ซึ่งช่วยสกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ณ ต้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทียบเท่ากับการเดินทางโดยเครื่องบินระหว่างนิวยอร์ก-ลอนดอนถึง 395 ล้านเที่ยว หรือระยะทางขับขี่ของรถยนต์ทั่วไปกว่า 9.86 แสนล้านไมล์ คิดเป็น 105 เท่าของการปล่อย CO₂ ในประเทศไอซ์แลนด์ต่อปี

บลูเบิร์ดเผยว่า “ความต้องการจากสถาบันในการ *โทเคนไรซ์* ทรัพย์สินที่สอดคล้องกับเกณฑ์ ESG กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มีมูลค่าธุรกรรมกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 6.95 หมื่นล้านบาท) ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา และดีลจากสถาบันรายใหญ่กำลังจะปิดในไม่ช้า”

โดยแนวคิดในการนำสินทรัพย์จริง (Real World Assets: RWA) มา *โทเคนไรซ์บนบล็อกเชน* นั้น ช่วยให้การลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพิ่ม *สภาพคล่อง* ที่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดประตูสู่การลงทุนบนโครงสร้างดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ERA นั้นโดดเด่นภายใต้กรอบการลงทุนแบบ ESG ด้วยลักษณะของโครงการที่มีอยู่จริง เช่นการปิดเหมืองหรือการปิดบ่อผลิตน้ำมัน ซึ่งสามารถตรวจวัดการลดการปล่อยได้อย่างแม่นยำ

โครี บิลลิงตัน(Corey Billington) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบลูเบิร์ดให้ *ความคิดเห็น* ว่า “ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เม็ดเงินจากสถาบันจำนวนหลายล้านล้านดอลลาร์จะย้ายเข้าสู่บล็อกเชน ด้วยเหตุผลด้าน *สภาพคล่อง*, *ประสิทธิภาพ* และ *การเข้าถึงทั่วโลก* ปัจจุบันบลูเบิร์ดมีดีลการซื้อขายที่เตรียมไว้แล้วถึง 18,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.52 ล้านล้านบาท)”

ทั้งนี้ บลูเบิร์ดยังมีแผนจะ *โทเคนไรซ์* สินทรัพย์มูลค่าเพิ่มอีก 18,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 โดยคาดว่าจะสามารถลดการปล่อย CO₂ ได้อีก 230 ล้านตัน สินทรัพย์เหล่านี้จะครอบคลุมทั้งวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม, สินค้าโภคภัณฑ์ และโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อรวมกับ ERA ชุดแรก คาดว่าการลดการปล่อยคาร์บอนรวมจะพุ่งแตะระดับ 600 ล้านตัน

ความเคลื่อนไหวนี้สร้าง *ความคาดหวังใหม่* ว่าการขยาย *โทเคนไรซ์สินทรัพย์* ที่สอดคล้องกับ ESG อาจนำไปสู่*การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง*ทั้งในภาคเศรษฐกิจจริงและตลาดทุน โดยถือเป็นหลักฐานชัดเจนถึง *ประโยชน์เชิงรูปธรรมของเทคโนโลยีบล็อกเชน* ในการช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน.