ศึกเดือดคริปโต! ไลต์คอยน์(LTC) โพสต์แซะริปเปิล(XRP) จุดชนวนสงครามทางโซเชียล ยอดเข้าชมทะลุ 7 แสน

ความขัดแย้งระหว่างสองชุมชนคริปโตกลับมาอีกครั้ง หลังจากบัญชีทางการของไลต์คอยน์(LTC) โพสต์ข้อความเชิงเย้ยหยันต่อริปเปิล(XRP) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยโพสต์ดังกล่าวมียอดเข้าชมทะลุกว่า 700,000 ครั้งในขณะนี้

เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อทางไลต์คอยน์เผยแพร่ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) โดยระบุว่า “ถึงคราวของริปเปิลและผู้บริหารแล้ว เรารอดูอยู่” ซึ่งตีความได้ว่าเป็นข้อความประชด โดยตรง ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ผู้สนับสนุน XRP บางส่วนถึงขั้นรายงานว่าได้ขายเหรียญไลต์คอยน์ที่ถืออยู่ทิ้งไป

หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งคือพฤติกรรมในอดีตของ ชาร์ลี ลี ผู้ก่อตั้งไลต์คอยน์ที่เคยขายเหรียญแทบทั้งหมดของตนในช่วงตลาดขาขึ้นเมื่อปี 2017 ซึ่งเคยสร้างข้อกังขาในวงการเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของโครงการ ความเคลื่อนไหวนี้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งโดยชุมชน XRP ที่ใช้กรณีดังกล่าววิจารณ์ท่าทีของลี

ในเวลาต่อมา บัญชีของไลต์คอยน์ยังโพสต์ต่อเนื่อง โดยกล่าวว่าเมื่อเคยล้อเลียนโซลานา(SOL) หรือแม้แต่ตนเอง ทุกอย่างยังอยู่ในบรรยากาศของความขบขัน แต่เมื่อถึงคราวของ XRP ผลคือ “การโจมตีเหมือนถ่ายเหลวตลอดสองวัน การขู่ดำเนินคดี และการกล่าวอ้างเท็จเกี่ยวกับมูลค่าทรัพย์สิน” พร้อมระบุว่าการตอบโต้เช่นนี้สะท้อนถึงการขาดอารมณ์ขันและความไม่สมดุลของโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน ความคิดเห็นระบุว่า “เสียงหัวเราะ” กำลังจะกลายเป็นของหายากในวงการ

ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า มูลนิธิไลต์คอยน์มีส่วนรับผิดชอบต่อโพสต์เหล่านี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายมองว่าในเมื่อชาร์ลี ลี มีบทบาทเป็นประธานบริหารของมูลนิธิ ก็อาจมีความรับผิดชอบในเชิงปฏิบัติด้วย

แม้จะมีการโจมตีด้วยถ้อยคำที่รุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อมองจากมุมของตลาด เหรียญทั้งสองกลับแสดงผลตอบแทนที่ไม่น่าพึงพอใจ โดยไลต์คอยน์ราคาลดลง 1.5% ขณะที่ XRP ลดลงราว 2.2% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า นี่แสดงให้เห็นว่า การโต้แย้งในโลกออนไลน์ไม่ได้กระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนแต่อย่างใด

แม้ชุมชนจะมักเกิดปะทะกันเป็นครั้งคราวในโลกคริปโต แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึง ‘ความเสี่ยงด้านแบรนด์’ ที่อาจตามมา หากแคมเปญที่ตั้งใจให้เป็นมุกตลกล้มเหลวและกลายเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งในวงกว้าง ความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า “อารมณ์ขันสามารถขยับเส้นแบ่งระหว่างการมีส่วนร่วมกับความเสียหายได้ หากใช้ผิดเวลาและผิดเป้าหมาย”