RAK Properties รับคริปโตชำระซื้ออสังหาฯ หนุนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สู่ศูนย์กลางคริปโตโลก

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ *อาร์เอเค พร็อพเพอร์ตี้ส์(RAK Properties)* ในรัฐราสอัลไคมาห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) เตรียมนำร่องรับชำระเงิน *ด้วยคริปโตเคอร์เรนซี* สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในสัญญาณล่าสุดของการยอมรับ *สินทรัพย์ดิจิทัล* ที่เพิ่มขึ้นทั่วตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อสัปดาห์นี้ บริษัทฯ ออกแถลงการณ์ว่า กำลังเปิดรับการชำระเงินด้วย *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และ *เทเธอร์(USDT)* เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าต่างชาติ โดยระบุว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ UAE ในการมุ่งสู่การเป็น *ศูนย์กลางคริปโตระดับโลก* ทั้งนี้ ทางการคาดว่าอุตสาหกรรมคริปโตอาจขยับมาอยู่ในลำดับที่สองของเศรษฐกิจประเทศภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

ระบบการชำระเงินนี้เกิดจากความร่วมมือกับแพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก *ฮับเพย์(Hubpay)* โดยเมื่อมีการจ่ายเงินด้วยคริปโต ระบบจะทำการแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้เป็นดิรฮัมของ UAE โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะถูกโอนเข้าบัญชีของ RAK Properties โดยฮับเพย์จะดูแลกระบวนการทั้งหมดให้ได้รับความปลอดภัยและรวดเร็ว

ราหุล โจกานี(Rahul Jogani) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทฯ ระบุว่า การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัล *เปิดโอกาสให้เข้าถึงกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการลงทุนเชิงรุกและเน้นเทคโนโลยีดิจิทัล* ไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาว

RAK Properties ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาบูดาบีตั้งแต่ปี 2005 ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 หมื่นล้านบาท โดยประกาศล่าสุดระบุว่า บริษัทมีแผนจะดำเนินโครงการพัฒนาใหม่อีก 12 โครงการภายในปี 2025 ขณะที่กำไรสุทธิประจำปี 2024 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 39% หรือราว 2.81 ร้อยล้านดิรฮัม (ประมาณ 1,087 ล้านบาท) เทียบกับปี 2023 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.02 ร้อยล้านดิรฮัม (ราว 781 ล้านบาท)

การยอมรับ *คริปโตเคอร์เรนซีใน UAE* กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับในภาคการลงทุน โดยเชส เออร์เกน(Chase Ergen) สมาชิกคณะกรรมการของบริษัทด้านการเงิน *ดีไฟ เทคโนโลยี(DeFi Technologies)* เชื่อว่าอุตสาหกรรมคริปโตในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเติบโตขึ้นจนกลายเป็นภาคส่วนเศรษฐกิจสำคัญรองจากน้ำมัน

ข้อมูลจาก *เชนอะนาไลซิส(Chainalysis)* เผยว่า ปริมาณกิจกรรมคริปโตใน UAE เพิ่มขึ้นในหลายระดับ โดยเฉพาะการทำธุรกรรมของผู้ลงทุนรายย่อยที่เติบโตมากกว่า *75%* เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขยายตัวออกไปไกลกว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่และสถาบัน

จึงกล่าวได้ว่า การเคลื่อนไหวของ RAK Properties ครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการ *ผสานกันระหว่างโลกอสังหาริมทรัพย์และคริปโต* ที่กำลังขยายตัวในภูมิภาค และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรมของตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในขณะที่ UAE ยังคงเดินหน้าเสริมสถานะของตนในฐานะประเทศคริปโตเฟรนด์ลี่อันดับต้นๆ ของโลก