SEC ทำข้อมูลโทรศัพท์ประธานสูญช่วงกดดันคริปโต เหตุไอทีผิดพลาด-ไร้ระบบสำรอง

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) ได้เปิดเผยรายงานผลการสอบสวนกรณีข้อความในโทรศัพท์ของประธาน SEC แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) หายไป โดยสรุปว่า *ความผิดพลาดที่สามารถหลีกเลี่ยงได้* เป็นสาเหตุของการสูญหายของข้อมูลครั้งนี้ รายงานดังกล่าวเผยแพร่เมื่อวันที่ 3 (ตามเวลาท้องถิ่น)

ข้อความที่สูญหายมีการส่งและรับในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2022 ถึงเดือนกันยายน 2023 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ SEC ใช้มาตรการกดดันอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเข้มงวด โดยถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของการดำเนินการตรวจสอบและออกบทลงโทษต่างๆ

ตามรายงานของ OIG ความผิดพลาดมาจาก *การตั้งค่านโยบายอัตโนมัติที่ไม่ถูกต้อง* โดยทีมไอทีของ SEC เกี่ยวกับฟังก์ชัน “Enterprise Wipe” ที่ติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือของเกนส์เลอร์ ซึ่งทำให้ข้อความทั้งหมดและบันทึกระบบปฏิบัติการในเครื่องถูกลบจนหมดสิ้น รายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ไอทีใช้ฟังก์ชันนี้โดยไม่เข้าใจผลกระทบที่แท้จริงอย่างถ่องแท้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมอย่าง *การไม่มีระบบสำรองข้อมูล, การละเลยคำเตือนจากระบบ และข้อผิดพลาดจากซอฟต์แวร์ของบริษัทภายนอกที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข* ซึ่งร่วมกันส่งผลให้ความเสียหายทวีความรุนแรงขึ้น

รายงานยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว โทรศัพท์ของเกนส์เลอร์เคยตัดการเชื่อมต่อกับระบบบริหารอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ SEC โดยที่ทีมไอที *ไม่สามารถติดตามหรือเก็บบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้* ทำให้ SEC ไม่สามารถระบุได้ว่า เกนส์เลอร์ *สูญเสียข้อมูลในลักษณะใด* ซึ่งนับว่าเป็นข้อบกพร่องร้ายแรงด้านความโปร่งใสขององค์กร

ประเด็นนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เกนส์เลอร์ผลักดันมาตรการควบคุมคริปโตอย่างเข้มข้น ส่งผลให้นักลงทุนและผู้เล่นในอุตสาหกรรมหลายรายออกมาวิจารณ์ว่า SEC ภายใต้การนำของเกนส์เลอร์ ดำเนินนโยบายแบบ *เลือกปฏิบัติต่ออุตสาหกรรมคริปโต* ความสูญหายของข้อความจึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เหตุการณ์นี้เป็นเพียง *ความผิดพลาดด้านเทคนิคธรรมดา หรืออาจเกี่ยวข้องกับการปกปิดข้อมูลสำคัญ*

แม้รายงานจะไม่ได้ชี้ชัดว่าเกนส์เลอร์มีเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่ *ความล้มเหลวในการจัดการระบบภายในของ SEC* ก็ได้สร้างคำถามต่อความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของหน่วยงานระดับสูง SEC ระบุว่าจะเร่งปรับปรุงกระบวนการจัดการระบบที่เกี่ยวข้องและเสริมสร้างนโยบายด้านการเก็บรักษาข้อมูลให้รัดกุมยิ่งขึ้นในอนาคต