ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
สถาบันวิจัยด้านตลาดโลก อาเลอา รีเสิร์ช (Alea Research) เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ประกอบกับท่าทีผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก่อให้เกิดบรรยากาศ ‘กล้าเสี่ยง’ ในตลาดคริปโตอย่างแพร่หลาย โดยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) และผู้บริโภค(CPI) เดือนสิงหาคมอยู่ที่ -0.1% และ 2.9% ตามลำดับ ต่ำกว่าหรือสอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด ขณะเดียวกันอัตราว่างงานขยับขึ้นแตะ 4.3% ทำให้ความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนของ Fed พุ่งทะลุ 90% ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ(DXY) ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ราคาบิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุจุดสูงสุดใหม่ที่ 115,000 ดอลลาร์
อาเลอา รีเสิร์ชชี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ได้ทยอยซื้อสะสมสินทรัพย์ไปแล้วในช่วงที่ตลาดยังเงียบ และจุดโฟกัสของตลาดในตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปยังสินทรัพย์ที่มี ‘ตัวกระตุ้น (Catalyst)’ เด่นชัด โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากสถาบันเทรดคริปโต(DAT) เช่น อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), ไฮป์(HYPE), เอทนา(ENA), อีเธอร์ไฟ(ETHFI), ปั๊ม(PUMP) และ จิโตะ(JTO) ซึ่งล้วนแสดงสัญญาณฟื้นตัวจากผลประกอบการหรือการขยายตัวของระบบนิเวศอย่างชัดเจน อาเลอาให้ความเห็นว่า “นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาสำหรับการซื้อทุกอย่าง แต่เป็นจังหวะที่ควร ‘เลือกลงทุน’ อย่างมั่นใจในเหรียญเฉพาะกลุ่ม”
รายงานยังระบุถึงความจำเป็นในการวางกลยุทธ์เชิงรุกในตลาดอัลท์คอยน์ โดยเน้นไปที่โครงการที่สามารถพิสูจน์โมเดลการสะสมมูลค่าได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น ไฮป์ ที่มีนโยบายหมุนเวียน USDH สเตเบิลคอยน์อย่างเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนแบรนด์ให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น และ ENA ที่ได้รับประโยชน์จากการขึ้นตลาดไบแนนซ์(Binance) พร้อมเปิดใช้การแบ่งค่าธรรมเนียม ทำให้มีแนวโน้มเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ โมเดลธุรกิจ ‘สเตเบิลคอยน์-แอส-อะ-เซอร์วิส’ ของ ENA ถูกมองว่ามีศักยภาพสูง เช่นเดียวกับแนวโน้มการเพิ่มพอร์ตลูกค้าของ DAT ด้าน ETHFI ได้แรงหนุนจากความคาดหวังต่อการขึ้นตลาดในเกาหลีใต้และแผนการเผาเหรียญของผู้ก่อตั้ง ส่วน PUMP ได้รับความสนใจจากกลยุทธ์ ‘ซูเปอร์แอป’ ที่รวม TikTok, Robinhood และ Twitch ไว้ด้วยกัน ผลักดันโอกาสสร้างรายได้จากฐานนักสร้างสรรค์คอนเทนต์
ในเชิงมหภาค เงื่อนไขทางเศรษฐกิจก็เอื้อให้ตลาดคริปโตฟื้นตัวเช่นกัน โดยการลดลงของ PPI (-0.1%) และ CPI (2.9%) ทำให้ความคาดหวังต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานอ่อนแอลงอย่างชัดเจน อัตราว่างงานสูงสุดในรอบหลายปี ประกอบกับการจ้างงานเติบโตต่ำสุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้ Fed เผชิญแรงกดดันในการปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ในภาวะดังกล่าว นักลงทุนรายใหญ่เริ่ม ‘ล็อกกำไร’ ก่อนการประชุม FOMC และวางแผนกลับเข้าลงทุนใหม่ผ่านกลยุทธ์แบบหมุนเวียน
อาเลอาเพิ่มเติมว่า บิตคอยน์ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อจากข้อมูลเชิงเทคนิค ตัวอย่างเช่น เสิร์ชเทรนด์ยังไม่ขยับ แม้ ETF จะเปิดตัวแล้วก็ตาม ขณะที่ค่า ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ กลับตกลงแรงผิดปกติ แม้ราคายืนได้ระดับสูง ซึ่งสะท้อน ‘โอกาสในการเข้าเก็งกำไร’ ในเชิงเปรียบเทียบ ส่วนโซลานา(SOL) ก็ได้รับความสนใจจากการขยายตัวของระบบดีไฟ (DeFi) ขณะที่โปรเจกต์อื่นอย่าง PUMP, PARCL และ KMNO ทำราคาแซงหน้า SOL ได้ แสดงถึงกระแสเงินทุนที่เน้นไปยังโครงการเชิงรุก
ด้านโทเคนของแพลตฟอร์มซื้อขาย เช่น MNT ถูกจัดเป็น ‘กลุ่มน่าสนใจเชิงกลยุทธ์’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเหรียญเดียวของกระดานเทรดใหญ่ที่ยังไม่มีแผนการเผาเหรียญ ซึ่งทำให้มีโอกาสกำหนดตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ที่โดดเด่นภายในสิ้นไตรมาส 3 ทั้งนี้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของ Bybit และความสามารถด้านการเงินอาจเสริมราคาขึ้นได้ ส่วนกลุ่มดีไฟบลูชิพ (DeFi Bluechip) อย่าง AAVE, LDO และ PENDLE ก็มีแนวโน้มถูกสะสมโดยสถาบัน (DAT) เพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้านเซนทริฟิวจ์(CFG) ขยับศูนย์กลางจากเชน Polkadot เดิม ไปสู่การเป็นแพลตฟอร์ม Fund Tokenization บน Ethereum พร้อมดันสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ RWA เข้าสู่ ‘จุดเร่งการเติบโตแบบไม่สมมาตร’
กลุ่มสินทรัพย์ภายใต้ธีม AI ก็กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง โดย Worldcoin(WLD) มีการฟื้นตัวแรงหลังมีข่าวเชิงบวกจากกลุ่ม DAT ขณะที่รายได้คลาวด์ของออราเคิล(ORCL) ที่สูงกว่าคาดเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนให้กับทั้งกลุ่ม AI และ DePIN และ REI ก็เป็นเหรียญ AI ขนาดเล็กที่ราคาพุ่งแรง โดดเด่นจากโครงสร้างแบบ ‘โทเคนดีฟเลชันระดับสูงในกลุ่มโลว์แคป-ไฮเบต้า’
โดยสรุป อาเลอา รีเสิร์ชประเมินว่า แม้แนวโน้ม ‘อัตราดอกเบี้ยขาลง’ จะสร้างแรงหนุนให้ตลาดโดยรวม แต่กระแสเงินทุนจะไม่ได้ไหลเข้าสินทรัพย์ดิจิทัลในทุกหมวดหมู่ อาเลอาแนะนำพอร์ตการลงทุนควร ‘โฟกัสเฉพาะเหรียญที่มีตัวเร่งชัดเจนและมีโครงสร้างสร้างมูลค่าที่แน่นอน’ เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ตลาดกล้าเผชิญในปัจจุบัน
ความคิดเห็น 0