อีเธอเรียม(ETH) ทะลุ 4,000 ดอลลาร์ หนุนแนวโน้มขาขึ้นมุ่งเป้า 5,000 ดอลลาร์

อีเธอเรียม(ETH) กลับมาสร้างแรงส่งขาขึ้นอีกครั้งหลังจากทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.56 ล้านบาท) ได้สำเร็จ แม้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงสั้น แต่โครงสร้างราคายังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ขณะที่บรรยากาศของนักลงทุนเริ่มโน้มเอียงไปทางฝั่ง ‘ซื้อ’

จากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิค อีเธอเรียมยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใน ‘ช่องขาขึ้นที่ชัน’ พร้อมมีแนวโน้มปรับตัวสู่ระดับด้านบน แม้จะเจอแรงขายกดดันบริเวณ 4,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.67 ล้านบาท) และเกิดการชะลอตัวในระยะสั้น แต่ราคายังคงยืนเหนือเส้นกลางของช่องแนวโน้มได้อย่างแข็งแกร่ง และยังเคลื่อนที่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันและ 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้ม ‘ขาขึ้นแข็งแรง’ ยังไม่ถูกทำลาย

เมื่อดูจากกราฟรายวัน ดัชนี RSI อยู่ในระดับ 51 บ่งชี้แรงซื้อและแรงขายยังสมดุลกันอยู่ แต่หากฝั่งซื้อกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม มีโอกาสที่ราคาจะทะลุแนวต้าน 4,800 ดอลลาร์ และพุ่งสู่เป้าหมายใหม่ที่ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม หากแนวรับล่างของช่องแนวโน้มพังลง การปรับฐานลึกไปถึงระดับ 4,000 ดอลลาร์ หรืออาจต่ำถึง 3,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.86 ล้านบาท) ก็ยังมีความเป็นไปได้

ในกราฟ 4 ชั่วโมง อีเธอเรียมยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 4,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.99 ล้านบาท) ถึง 4,800 ดอลลาร์ ซึ่งแนวรับด้านล่างได้ผ่านการทดสอบหลายครั้งแต่ยังสามารถรักษาไว้ได้ดี สะท้อนถึง ‘แรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง’ อย่างไรก็ตาม RSI ในกรอบเวลานี้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 41 แสดงถึงแรงส่งระยะสั้นที่เริ่มแผ่วลง และหากเกิดการหลุดระดับแนวรับ อาจเห็นการปรับฐานลงสู่ 3,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.28 ล้านบาท)

ขณะเดียวกัน บรรยากาศโดยรวมของตลาดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่ดัชนีพรีเมียมของโคอินเบส (Coinbase) เริ่มกลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง แสดงถึงแรงซื้อจาก ‘นักลงทุนสหรัฐฯ ที่อยู่บนพื้นฐานความต้องการจริง (Real Demand)’ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนสถาบัน สะท้อนถึงความสนใจในตลาดสปอตที่ยังไม่จางหาย และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้ราคามีโอกาสฟื้นตัวแม้จะเกิดการพักฐาน

เมื่อพิจารณาในภาพรวม ทั้งการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและภาวะตลาด อีเธอเรียมยังคงมี ‘ศักยภาพในทิศทางขาขึ้น’ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยระดับ 4,800 ดอลลาร์จะเป็นแนวต้านสำคัญที่อาจชี้ชะตาเทรนด์ขาขึ้นในระยะถัดไป นักลงทุนควรจับตา ‘การเคลื่อนไหวของปริมาณการซื้อขาย’ และ ‘ปฏิกิริยาตลาด’ บริเวณแนวต้านนี้อย่างใกล้ชิด