ริปเปิล(XRP) ปรับฐานแน่นที่ 2.77 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้แนวรับ 2.65 ดอลลาร์คือกุญแจทิศทางขาขึ้น

ริปเปิล(XRP) ยังคงซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 2.8 ดอลลาร์ โดยสามารถรักษาระดับแนวรับทางเทคนิคที่ 2.77 ดอลลาร์ไว้ได้อย่างหวุดหวิด ท่ามกลางความกังวลของนักวิเคราะห์คริปโตที่ชี้ว่า หากระดับนี้พังลง อาจเป็น *จุดเร่งของแนวโน้มขาลงในระยะสั้นได้* โดยเฉพาะระดับ 2.65 ดอลลาร์ กำลังถูกจับตามองว่าเป็น *ช่วงสำคัญในการรักษาทิศทางขาขึ้นในระยะยาว* ซึ่งทำให้ตลาดเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

จากข้อมูลตลาด พบว่า 76% ของเทรดเดอร์ยังคงถือสถานะ Long และมีเม็ดเงินกว่า 66 ล้านดอลลาร์ไหลออกจากตลาดภายใน 48 ชั่วโมงล่าสุด สะท้อนสัญญาณ *การสะสมตัวของสินทรัพย์* ขณะที่ในกระดานของ Binance สัดส่วน Long/Short อยู่ที่ 3.34 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า *โมเมนตัมการปรับขึ้นราคายังไม่หมดไป*

นักวิเคราะห์ทางเทคนิค EGRAG CRYPTO ระบุว่า ริปเปิลเพิ่งเสร็จสิ้นรูปแบบการปรับฐานแบบ 5 คลื่นขาลง ก่อนเกิด *ภาวะ ‘Throw Back’ ที่ระดับ 2.82 ดอลลาร์* ซึ่งเคยเป็นแนวรับสำคัญก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ระดับ 3.13 ดอลลาร์กลับกลายเป็นแนวต้านแข็งแกร่ง ทำให้แนวโน้มขาขึ้นไม่สามารถเร่งตัวได้เต็มที่

ด้านข้อมูลเชิงเทคนิคอื่นๆ บางส่วนเริ่มแสดง *สัญญาณการฟื้นตัวที่อาจเป็นไปได้* โดยดัชนี RSI อยู่ที่ระดับ 54 ซึ่งถือเป็นระดับกลางไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง ขณะเดียวกัน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ EMA 50 วัน ยังคงไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนภาพแนวโน้มกลางที่เป็นบวก

นักวิเคราะห์ เอริกา เฮย์เซล(Erica Hazel) ให้ความเห็นว่า ริปเปิลสามารถทะลุเส้นแนวต้านขาลงที่ลากมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมได้เรียบร้อยแล้ว พร้อมชี้ว่า บริเวณ 2.85 ดอลลาร์ และ 2.95 ดอลลาร์ ได้รับการยืนยันว่าเป็น *แนวรับที่มีนัยสำคัญ* ในการสร้างฐานราคาใหม่

เฮย์เซลระบุเพิ่มว่า หาก XRP สามารถ *ชนะแนวต้านที่ 2.96 ดอลลาร์* และ *ทะลุผ่านระดับ 3.13 ดอลลาร์* ได้สำเร็จ จุดทดสอบถัดไปจะอยู่ที่ 3.31 ดอลลาร์ และ 3.64 ดอลลาร์ ซึ่งหากระดับนี้ถูกทำลาย *ตลาดคริปโตอาจเข้าสู่ภาวะแข็งแกร่งโดยสมบูรณ์*

ทั้งนี้ ในมุมมองระยะกลางถึงระยะยาว ตลาดส่วนใหญ่ยังเห็นตรงกันว่า ตราบใดที่ริปเปิลสามารถ *ทรงตัวเหนือระดับ 2.65 ดอลลาร์* ได้ ทิศทางขาขึ้นจะยังคงอยู่ ความผันผวนแม้จะยังไม่หมดไป แต่คำถามสำคัญตอนนี้คือ การเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นเพียง *รูปแบบการ Throw Back ซ้ำ* หรือว่าเป็น *จุดเริ่มต้นของการกลับตัวเป็นขาขึ้นเต็มรูปแบบ* ซึ่งต้องติดตามราคาต่อเนื่องในอีกไม่กี่วันข้างหน้า