ริปเปิล(XRP) ปลุกชีพตลาดด้วย ETF แรกในสหรัฐฯ และสเตเบิลคอยน์ RLUSD เสริมบทบาทในการชำระเงินทั่วโลก

ริปเปิล(XRP) จุดชนวนสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว ‘กองทุน ETF แรกของ XRP ในสหรัฐฯ’ และ ‘สเตเบิลคอยน์ RLUSD’ พร้อมกัน โดยทั้งสองผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้อาจ *ขยายทั้งสภาพคล่องและการใช้งานของ XRP* ได้อย่างมีนัยสำคัญ ผ่านกลไกที่เสริมกันอย่างลงตัว

อเล็กซิส เซอร์เคีย(Alexis Sirkia) หัวหน้าฝ่ายของโปรเจกต์ เยลโลว์เน็ตเวิร์ก เผยกับ CryptoPotato เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า โครงสร้างของระบบนิเวศของ XRP กำลังเปลี่ยนแปลงไป “RLUSD ไม่ได้มาเพื่อแข่งขัน แต่เป็นกลไกเพิ่มสภาพคล่องให้กับ XRP และเมื่อทั้งสองรวมกันจะเกิด ‘ซินเนอร์จี้’ ที่ยากจะหาได้จากตลาดทั่วไป” เขากล่าว โดย RLUSD เริ่มถูกยอมรับให้เป็นเครื่องมือชำระหนี้ที่สอดคล้องกับระบบธนาคารของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความต้องการใช้ XRP เป็นสินทรัพย์ตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่าง ๆ

ในแอฟริกา RLUSD ได้รับการใช้งานจริงผ่านแพลตฟอร์มอย่าง ชิปเปอร์แคช(Chipper Cash) และ เยลโลว์การ์ด(Yellow Card) เพื่อแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์จริงแบบเรียลไทม์ เสริมความเชื่อมโยงระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและตลาดโลก โดย XRP ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมที่สำคัญในกระบวนการเหล่านี้

นอกจากนี้ ‘ETF ของ XRP’ ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนภาพรวมของตลาดการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ XRP อย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน REX-Osprey XRP ETF(XRPR) หรือ ProShares Ultra XRP ETF ที่ถูกมองว่าเป็นมากกว่าแค่เครื่องมือการลงทุนทั่วไป แต่ยังนับว่าเป็น *สัญญาณของท่าทีใหม่จากหน่วยงานกำกับดูแล* อีกด้วย เซอร์เคียกล่าวว่า “ตอนนี้ XRP พร้อมแล้วที่จะปะทะกับกฎเกณฑ์อย่างเปิดเผย และสามารถดำเนินบทบาทด้านการชำระเงินระดับโลกได้อย่างแท้จริง”

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในปัจจุบันอาจยังไม่สะท้อนการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ โดยในเดือนกันยายน จำนวนธุรกรรมรายวันของเครือข่าย XRPL ลดลงเหลือประมาณ 223,000 รายการ ขณะที่จำนวนกระเป๋าเงินแอคทีฟหดตัวจาก 580,000 หมายเลขในเดือนมิถุนายน เหลือเพียง 31,000 หมายเลขเท่านั้น พร้อมกับแรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่และราคา XRP ที่ร่วงลงมาที่ระดับต่ำกว่า 3 ดอลลาร์

แต่เซอร์เคียยังคง ‘มองโลกในแง่บวก’ โดยมองว่าปรากฏการณ์นี้เป็น “ปรับฐานตามรอบของตลาดอัลท์คอยน์” มิใช่สัญญาณความเปราะบางของระบบนิเวศ XRP เขาเชื่อว่าพื้นฐานของเทคโนโลยียังคงแข็งแกร่ง และผลิตภัณฑ์อย่าง ETF กับ RLUSD จะสร้าง ‘ฟีดแบ็คเชิงบวก’ ต่อโครงสร้างการบริหารของ XRP

เยลโลว์เน็ตเวิร์ก ซึ่งนำโดยเซอร์เคีย และได้รับการสนับสนุนจาก คริส ลาร์เซน(Chris Larsen) ผู้ร่วมก่อตั้งริปเปิล เป็นโครงการโปรโตคอลเลเยอร์ 3 ที่มุ่งสร้างเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับนักพัฒนา dApp ในระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง(DeFi) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถในการขยายตัวของแอปพลิเคชัน

*แม้สภาวะตลาดยังชะลอตัว การเคลื่อนไหวเชิงรุกของริปเปิลกำลังปลุกชีพระบบนิเวศของ XRP* และในระยะยาวหลายฝ่ายยังจับตามองว่า สินทรัพย์คริปโตชนิดนี้จะสามารถกลับมาเป็นเสาหลักในโลกการเงินดิจิทัลระดับโลกได้หรือไม่