ริปเปิล(XRP) พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี ก่อนร่วง 25% ท่ามกลางความกังวลตลาดขาลง

ริปเปิล(XRP) เพิ่งสร้างจุดสูงสุดใหม่ของตลาดกระทิงในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ด้วยการทะลุราคาสูงสุดตลอดกาลเดิมที่ประมาณ 3.4 ดอลลาร์ (ราว 4,726 บาท) ซึ่งเคยทำไว้เมื่อปี 2018 อย่างไรก็ตาม ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคากลับเข้าสู่ภาวะ ‘ปรับฐาน’ ส่งผลให้ความกังวลของนักลงทุนเริ่มก่อตัว โดยตลาดต่างถกเถียงกันถึงประเด็นว่า การปรับตัวครั้งนี้เป็นเพียงแค่การ ‘พักฐาน’ เพื่อเดินหน้าต่อ หรือคือจุดสิ้นสุดของวงจรขาขึ้นที่เริ่มต้นมานาน

หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ราคาของริปเปิลดีดตัวจากระดับประมาณ 0.60 ดอลลาร์ (ราว 834 บาท) ขึ้นเหนือแนวต้าน 3 ดอลลาร์ (ราว 4,170 บาท) และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 3.65 ดอลลาร์ (ราว 5,074 บาท) ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ราคากลับลดลงต่ำกว่าแนว 3 ดอลลาร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และล่าสุดได้ทดสอบแนวรับสำคัญที่ 2.70 ดอลลาร์ (ราว 3,753 บาท) หลายครั้ง แม้แนวรับดังกล่าวยังไม่ถูกทะลุลงมา แต่การที่ราคาปรับลดลงจากจุดสูงสุดประมาณ 25% ทำให้เกิดคำถามว่า ตลาดขาขึ้นของริปเปิลอาจจบลงแล้วหรือไม่

*ความคิดเห็น* จากแชตจีพีทีของ OpenAI มองว่า การปรับฐานเช่นนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งแม้อยู่ในช่วงตลาดกระทิง และมีการยกตัวอย่างว่า *บิตคอยน์(BTC)* และเหรียญใหญ่ๆ หลายตัวเคยประสบภาวะเช่นเดียวกันนี้ในอดีต ก่อนที่จะทะลุจุดสูงสุดเดิมของตัวเองได้ในรอบถัดไป จึงยังไม่ใช่สัญญาณจบวงจรแต่อย่างใด พร้อมเสริมว่า “การพักฐานในช่วงกลางของวงจรขาขึ้น เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป และไม่จำเป็นต้องตีความว่าเป็นจุดสิ้นสุดของตลาด”

อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยสำคัญที่ริปเปิลต้องจับตาเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะขาลง โดยด้าน *เทคนิค* แชตจีพีทีเตือนว่า หากราคา ‘หลุดทะลุ’ แนวรับ 2.70 ดอลลาร์อย่างชัดเจน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วงลึกกว่านี้ ในขณะเดียวกัน กิจกรรม *ออนเชน* จะต้องแข็งแรงต่อเนื่องเพื่อรักษาโมเมนตัม ขณะที่ทิศทางของนโยบายเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก *ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)* ก็อาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญ โดยล่าสุด เจอโรม พาวเวลล์ ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้ออีกครั้ง ซึ่งส่งผลลบต่อคริปโตในฐานะสินทรัพย์เสี่ยง

อีกหนึ่งปัจจัยบวกที่อาจช่วยผลักดันราคาของริปเปิลในระยะถัดไปคือความเป็นไปได้ที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ของสหรัฐฯ จะอนุมัติคำร้องขอจดทะเบียน ‘ETF ริปเปิลแบบสปอต’ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวมีอยู่มากกว่า 10 ฉบับในปัจจุบัน *ความคิดเห็น* จากแชตจีพีทีระบุว่า หาก ETF เหล่านี้ผ่านการอนุมัติจริง จะเป็นตัวแปรสำคัญที่สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากเข้าสู่ริปเปิลได้

สรุปแล้ว แนวโน้มขาขึ้นของริปเปิลยังคงมีอยู่ แม้อาจต้องเผชิญกับช่วง ‘ตั้งหลัก’ ก่อนจะเดินหน้าต่อ ทั้งนี้ *แนวรับหลัก, ตัวชี้วัดออนเชน, ทิศทางนโยบายการเงิน และความคืบหน้าเรื่อง ETF* จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดเส้นทางของริปเปิลในระยะถัดไป ขณะที่ทิศทางของตลาดยังคงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา