ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
คลาวด์โนดบนเครือข่ายไลท์นิ่งกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานบิตคอยน์(BTC) โดยล่าสุด CoinEasy เปิดเผยผ่านรายงานวิจัยว่า การใช้ไลท์นิ่งโนดผ่านระบบคลาวด์สามารถผสานข้อดีทั้งในด้าน ‘การควบคุมสินทรัพย์’ และ ‘ความเร็วในการชำระเงิน’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกโซลูชันนี้ยังช่วยลดอุปสรรคทางเทคนิคสำหรับผู้ใช้ทั่วไป พร้อมเปิดทางให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถเข้าใช้งานเครือข่ายไลท์นิ่งได้อย่างราบรื่น
ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์กถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการโอนบิตคอยน์อย่างรวดเร็วและต้นทุนต่ำ แต่ในทางปฏิบัติกลับมีขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การเปิดช่องทางชำระเงิน, การจัดการสภาพคล่อง, ไปจนถึงการติดตั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ทำให้ผู้ใช้ใหม่เผชิญกับ ‘กำแพงการเริ่มต้น’ ที่สูงเกินไป ด้วยเหตุนี้ คลาวด์โนดจึงถูกมองว่าเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค แต่ยังคงรักษาการควบคุมกุญแจส่วนตัวของตนเองไว้
หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือ Greenlight ของ Blockstream ซึ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการศูนย์กลาง แต่เก็บรักษากุญแจส่วนตัวไว้บนอุปกรณ์ของผู้ใช้เท่านั้น CoinEasy วิเคราะห์ว่า Greenlight เป็นโซลูชันที่เหมาะกับผู้เริ่มต้น ด้วยคุณสมบัติการจัดการช่องทางอัตโนมัติและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับมือถือ แม้ว่าจะมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถปรับแต่งกระเป๋าเงินได้ และต้องใช้งานภายใต้แอปพลิเคชันที่ระบุไว้
อีกหนึ่งทางเลือกอย่าง Alby Hub Cloud มอบความสามารถในการตั้งค่าช่องทางและจัดการสภาพคล่องด้วยตนเอง ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อแอปและกระเป๋าคริปโตหลากหลายเข้ากับศูนย์กลางเพียงจุดเดียว ระบบนี้พัฒนาแบบโอเพนซอร์ส ให้ทั้งความโปร่งใสและความสามารถในการขยายตัว อย่างไรก็ตาม Alby เหมาะกับผู้ใช้ระดับกลางถึงขั้นสูง เนื่องจากต้องใช้ทักษะทางเทคนิคมากขึ้นและอาจมีค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิก
สำหรับนักพัฒนาและภาคธุรกิจ Voltage เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้โครงสร้างพื้นฐานระดับสูง มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งและความพร้อมใช้งานสูง แพลตฟอร์มนี้สามารถทำงานร่วมกับกระเป๋าเงินอย่าง Zeus และ Blue Wallet และยังรองรับการเชื่อมต่อ API สำหรับการสร้างแอปพลิเคชันองค์กร ถึงอย่างนั้น ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและระดับเทคนิคที่สูงกว่า
จากรายงานของ CoinEasy การแพร่หลายในอนาคตของกระเป๋ามือถืออาจขับเคลื่อนด้วยโครงสร้าง ‘มัลติคลาวด์’ ซึ่งผสานการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการหลายราย (LSP) เข้าด้วยกัน รวมถึงจำแนกระหว่างกระเป๋าแบบรับฝากและไม่รับฝาก จึงเป็นไปได้ว่าผู้ใช้มือใหม่จะสามารถก้าวไปสู่การใช้งานระดับสูงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม รายงานยังเตือนว่าคลาวด์โนดนั้นยังคงเป็น ‘คอมพิวเตอร์ของผู้อื่น’ หมายความว่า แม้ผู้ใช้จะถือคีย์ส่วนตัวไว้ ระบบที่ให้บริการอยู่ก็ยังเป็นจุดอ่อน หากหยุดทำงานขึ้นมาก็อาจทำให้โหนดหยุดทำงานได้เช่นกัน การรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน เช่น การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน, การทดสอบการทำธุรกรรมด้วยจำนวนเงินน้อย, การอัปเดตระบบ และการจัดการช่องทางอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
โดยรวมแล้ว คลาวด์โนดในเครือข่ายไลท์นิ่งคือทางออกที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างระหว่างกระเป๋าแบบรับฝากและการรันโหนดแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งนอกจากให้ความสะดวกแล้วยังช่วยเปิดประสบการณ์การใช้จ่ายผ่านบิตคอยน์แบบไร้ตัวกลางให้เข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น CoinEasy เชื่อว่าโครงสร้างนี้จะกลายเป็นกลไกสำคัญในการลด ‘ข้อจำกัดในการเริ่มใช้’ และนำไปสู่การใช้งานเทคโนโลยีการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ในระดับมวลชนในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0