ปี 2025 ยุคใหม่ของการใช้คริปโตฯ บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP) จ่ายกาแฟ-ซื้อรถหรูได้จริง

คริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของนักลงทุนอีกต่อไป โดยในปี 2025 นี้ การใช้งาน ‘บิตคอยน์(BTC)’, ‘อีเธอเรียม(ETH)’ และ ‘ริปเปิล(XRP)’ ในชีวิตประจำวันได้ขยายวงกว้าง ตั้งแต่ร้านค้าแบรนด์ใหญ่ไปจนถึงผู้ประกอบการรายย่อยทั่วโลกนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการรับชำระเงิน ทั้งจากความนิยมสูง สภาพคล่องที่ดี และคุณลักษณะทางเทคโนโลยีที่แตกต่าง จึงเห็นได้ชัดว่าสินทรัพย์เหล่านี้เริ่มเข้าไปมีบทบาททั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไปจนถึงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรู

บรรดาแบรนด์ระดับโลกอย่างสตาร์บัคส์, Sheetz, ไมโครซอฟท์(MSFT) และโฮมดีโป(HD) ต่างก็เริ่มเปิดรับการชำระเงินด้วยคริปโตฯ ในบางสาขาหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะสตาร์บัคส์อนุญาตให้ใช้บิตคอยน์และอีเธอเรียมชำระค่าเครื่องดื่มผ่านบัตรของขวัญ Bitrefill และแอปชำระเงินของ Sheetz ก็รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน ขณะที่ XRP แม้จะยังไม่เป็นที่นิยมมากในร้านค้าทั่วไป แต่สามารถใช้งานผ่านแอปรวบรวมร้านอาหารและไดเรกทอรีที่รองรับเหรียญ

วงการฟาสต์ฟู้ดยังเริ่มผสานคริปโตฯ เข้ากับระบบมากขึ้น เช่น แมคโดนัลด์บางแห่งรับชำระด้วยบิตคอยน์, Subway และ Burger King เปิดให้ชำระทางอ้อมผ่านแอปหรือบัตรของขวัญ ส่วนน่าสนใจคือ Steak ‘n Shake ที่เปิดรับ BTC ทั่วสหรัฐและเผยว่าทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 11% นอกจากนี้ร้านอย่าง Chipotle และ Baskin-Robbins ก็เสนอทางเลือกในการชำระเงินด้วย ETH, BTC และ XRP ผ่าน BitPay

ภาคค้าปลีกก็ไม่ตกขบวนเช่นกัน AT&T เปิดให้ผู้ใช้ชำระค่าโทรศัพท์ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล ไมโครซอฟท์และ Newegg รับคริปโตฯ โดยตรง ส่วน Overstock คือหนึ่งในรายที่เปิดรับ XRP ขณะที่ Shopify ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์หลายหมื่นรายเพิ่มระบบรับชำระด้วยคริปโตฯ ได้อย่างง่ายดาย แบรนด์ฮาร์ดแวร์อย่างโฮมดีโป, Lowe’s และ IKEA ก็เปิดรับ ETH และ BTC ผ่านบริการ Bitrefill และ BitPay

ด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสินค้าหรูหรานั้น ความนิยมของคริปโตฯ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน Travala ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจองเที่ยวบินและโรงแรม รองรับ BTC, ETH และ XRP อย่างเต็มรูปแบบ และเอมิเรตส์ก็เตรียมนำระบบชำระเงินด้วยคริปโตฯ ด้วยความร่วมมือกับ Crypto.com ส่วนสายการบิน AirBaltic เริ่มรับสินทรัพย์ดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2014 และมียอดธุรกรรมหลายพันรายการ

ตลาดหรูยังมีการใช้คริปโตฯ เพิ่ม เช่น Post Oak Motor Cars ที่รับ BTC สำหรับการซื้อรถซูเปอร์คาร์ หรือ BitCars ที่เป็นตลาดรถมือสองโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล แบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Gucci และ Ralph Lauren ก็เริ่มนำร่องให้ลูกค้าชำระสินค้าด้วยคริปโตฯ ในบางสาขา ในขณะเดียวกัน Alternative Airlines ก็เปิดให้จองตั๋วเครื่องบินจากมากกว่า 600 สายการบินด้วยเหรียญกว่า 100 ชนิด รวมถึง XRP

สินทรัพย์อย่าง BTC, ETH และ XRP ยังเริ่มมีบทบาทในระบบธุรกิจโดยเฉพาะด้าน Treasury และโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงิน Ripple เองก็สร้างจุดเด่นให้ XRP เป็นเครื่องมือการส่งเงินข้ามประเทศและการชำระบัญชีแบบเรียลไทม์ โดยมีหลายสถาบันการเงินอย่าง MercuryFX และ Cuallix รับนำไปใช้ ขณะที่แพลตฟอร์มอย่าง PayPal, NOWPayments และ BitPay ช่วยให้ธุรกิจรายย่อยสามารถรับชำระเงินดิจิทัลพร้อมการแปลงค่าและออกใบเสร็จตามกฎหมายได้โดยไม่ยุ่งยาก

บางธุรกิจยังมองเหรียญดิจิทัลเป็นสินทรัพย์กลยุทธ์เพื่อป้องกันเงินเฟ้อหรือเพิ่มทางเข้าตลาด เช่น BitMine, SharpLink Gaming และ VivoPower ได้นำ BTC หรือ ETH ไปไว้ในพอร์ตการลงทุนของบริษัท

จากการใช้จริงในชีวิตประจำวัน จนถึงการลุยในตลาดหรูและระดับองค์กร บิตคอยน์, อีเธอเรียม และ XRP ต่างได้รับการพิสูจน์ว่าเหมาะสมในมิติที่แตกต่าง ทั้งในด้าน ‘ความน่าเชื่อถือ’, ‘การขยายตัว’ และ ‘ความเร็ว’ ซึ่งทำให้ปี 2025 กลายเป็นยุคที่การ “ซื้อกาแฟด้วยคริปโตฯ” ไม่ใช่ภาพของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็น ‘ความจริง’ ที่ปรากฏแล้วในปัจจุบัน.