อาบูดาบีห้ามขุดคริปโตบนที่ดินเกษตร ฝ่าฝืนเจอโทษปรับสูงสุดกว่า 3.7 ล้านบาท

หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารและเกษตรของอาบูดาบี (ADAFSA) ประกาศห้ามการขุดคริปโตเคอเรนซีบนที่ดินเกษตรกรรมทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ จากความกังวลเรื่อง ‘การใช้ทรัพยากรเกินควร’ และ ‘ผลกระทบต่อเป้าหมายการเกษตรแบบยั่งยืน’ ของชาติ

เมื่อวันที่ 4 หน่วยงาน ADAFSA ระบุว่า ‘กิจกรรมขุดคริปโตบนพื้นที่เกษตร' ภายใต้การดูแลของหน่วยงานจะไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด และหากพบว่ามีการฝ่าฝืน อาจต้องเจอ ‘โทษปรับสูงสุด 100,000 เดอร์แฮม’ (ประมาณ 3.78 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพิ่มเติม ทั้งการยึดอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขุด, ตัดไฟในพื้นที่ที่ตรวจพบ และอาจ ‘ระงับการให้บริการจากหน่วยงานรัฐในระดับท้องถิ่น’ อย่างเข้มงวด

ในถ้อยแถลง ADAFSA ย้ำว่า “การขุดคริปโตไม่อยู่ในขอบเขตกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หน่วยงานอนุมัติ และถือเป็นการละเมิดกฎว่าด้วยการใช้ที่ดินเกษตรอย่างยั่งยืน” พร้อมเสริมว่า “การขุดคริปโตต้องใช้พลังงานมหาศาล ส่งผลเสียต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม และเบี่ยงเบนที่ดินจากวัตถุประสงค์ทางการเกษตรที่แท้จริง”

ท่าทีนี้สอดคล้องกับนโยบายยั่งยืนของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยเฉพาะแนวทางผลักดันพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง อีกทั้งยังมุ่งกีดกันไม่ให้พื้นที่เพาะปลูกถูกดัดแปลงเป็นศูนย์ข้อมูลหรือโรงงานที่ต้องใช้ GPU หรือ ASIC ประสิทธิภาพสูงสำหรับขุดคริปโต

*ความคิดเห็น:* แม้มาตรการครั้งนี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดคริปโตในเชิงราคา แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การเคลื่อนไหวของอาบูดาบีถือเป็นรายละเอียดสำคัญในภาพรวมของการกำหนดกรอบกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในขณะที่ UAE กำลังเปิดรับเทคโนโลยีบล็อกเชนผ่านการสนับสนุนบริษัทต่างชาติจากศูนย์กลางอย่างอาบูดาบีและดูไบ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่อง ‘ประสิทธิภาพทรัพยากร’ และ ‘ความสอดคล้องกับเป้าหมายนโยบายของชาติ’