รายงานเผย: สถาบันการเงินเพิ่มสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล แตะ 16% ภายในปี 2028

บรรดาสถาบันการเงินดั้งเดิมกำลังเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ อย่างชัดเจน ตามรายงานล่าสุดจากสเตทสตรีท(State Street) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบรรดานักลงทุนสถาบันกำลังให้ความสำคัญกับ ‘บล็อกเชน’ และ ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’ มากขึ้น โดยเฉพาะในฐานะเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถปรับใช้ในกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ในโลกยุคดิจิทัล

รายงานระบุว่า ปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัลคิดเป็นประมาณ *7%* ของพอร์ตการลงทุนรวมของนักลงทุนสถาบัน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น *16%* ภายในปี 2028 ซึ่งเท่ากับการเติบโตมากกว่าสองเท่าภายในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า โดยการลงทุนที่เด่นชัดจะอยู่ในกลุ่มเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ (Stablecoin) และสินทรัพย์ที่ถูก ‘โทเคนไนซ์’ เช่น หุ้นหรือพันธบัตร ซึ่งนักลงทุนต่างจัดสรรแต่ละกลุ่มไว้ที่ประมาณ *1%* ของสินทรัพย์ทั้งหมด

ในรายงานยังชี้ให้เห็นว่า บรรดาบริษัทจัดการสินทรัพย์กำลังเสริมสร้างความเกี่ยวพันกับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับที่สูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความสนใจใน ‘เครื่องมือที่ถูกโทเคนไนซ์’ ที่นอกเหนือจากกลุ่มสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวด้านการลงทุนที่ไม่ใช่เพียงการทดลอง แต่เป็นการนำมาใช้จริง *ในเชิงกลยุทธ์*

ทิศทางดังกล่าวยังส่งผลบวกต่อระบบนิเวศบล็อกเชนโดยรวม ทั้งบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โพลิกอน(MATIC), เชนลิงก์(LINK) และไลต์คอยน์(LTC) ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกของการเติบโตในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยังคงแตกต่างกันไปเกี่ยวกับการผสานระหว่าง DeFi และระบบการเงินดั้งเดิม โดยระบุว่าจำเป็นต้องมี ‘กรอบกำกับดูแล’ และ ‘ระบบจัดการความเสี่ยง’ ที่เหมาะสมควบคู่ไปด้วยเพื่อให้เกิดการรวมตัวกันอย่างยั่งยืน