ธนาคารกลางสิงคโปร์เปิดตัวโครงการบลูม(BLOOM) พัฒนาเครือข่ายชำระเงินคริปโตหลายสกุลเงิน

ธนาคารกลางสิงคโปร์(MAS) ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ ‘บลูม(BLOOM)’ เพื่อสร้างระบบการชำระเงินแบบหลายสกุลเงิน โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรระดับโลกอย่าง เจพีมอร์แกน(JPM) และบริษัทผู้ออกเหรียญเสถียรภาพอย่างเซอร์เคิล(Circle) รวมถึงสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาค โครงการนี้ถือเป็นภาคต่อจาก “โปรเจกต์ออร์คิด(Project Orchid)” โดยมีเป้าหมายในการ ‘โทเคนไนซ์’ เงินฝากธนาคารและเหรียญเสถียรภาพ(stablecoin) เพื่อสร้างเครือข่ายการไหลเวียนและการชำระบัญชีอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ชื่อ “บลูม” มาจากตัวย่อของคำว่า Borderless, Liquid, Open, Online, Multi-currency ซึ่งสะท้อนถึงเป้าหมายของระบบการชำระเงินแบบ ‘ไร้พรมแดน มีสภาพคล่อง เปิดกว้าง เชื่อมโยงออนไลน์ และรองรับหลายสกุลเงิน’ จุดมุ่งหมายหลักของโปรเจกต์นี้คือ การอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล การรักษามูลค่าสิงคโปร์ดอลลาร์ในรูปแบบโทเคน และการรองรับทั้งธุรกรรมภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่ง ‘อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินในระดับโลก’ ความสามารถในการใช้งานร่วมกับทั้งกลุ่มสกุลเงินหลักของ G10 และสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียนั้น ยิ่งตอกย้ำถึงความเป็นไปได้ในการนำไปใช้จริง

จากข้อมูลของ MAS ขณะนี้มีบริษัทการเงินและระบบชำระเงินเข้าร่วมแล้วถึง 16 ราย ซึ่งรวมถึงธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งในสิงคโปร์, เจพีมอร์แกน(JPM), ธนาคารกสิกรไทย(Kasikorn Bank), และเซอร์เคิล(Circle) ผู้ออกเหรียญเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังมีบริษัทให้บริการชำระเงินจากหลายประเทศอีก 4 แห่ง และบริษัทออกเหรียญเสถียรภาพอีก 3 ราย เข้าร่วมด้วย ทำให้โครงสร้างการชำระบัญชีแบบพหุภาคีนี้ได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์และสถาบันทางการเงินทั่วโลก

หนึ่งในคุณสมบัติหลักของโครงการบลูม คือ การดำเนินการโอนมูลค่าระหว่าง ‘เงินฝากธนาคาร-เงินฝากแบบโทเคน-เหรียญเสถียรภาพ’ ด้วยอัตราคงที่เทียบเท่ากัน ผู้ใช้งานจะสามารถถือสกุลเงินสิงคโปร์ในรูปแบบที่แตกต่าง เช่น ในบัญชีธนาคาร, โทเคนบนแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่สเตเบิลคอยน์ที่อยู่บนบล็อกเชน ได้ในมูลค่า ‘1 ดอลลาร์สิงคโปร์’ ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็น ‘จุดเด่นด้านความเสถียรของระบบ’

นอกจากนี้ MAS ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการผสานระบบกับ ‘บล็อกเชนสาธารณะ’ โดยแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการรวมกันระหว่างโครงสร้างพื้นฐานการเงินแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีดิจิทัลยุคใหม่ การเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ว่า กลไกการชำระเงินและการโอนระหว่างประเทศอาจเดินหน้าเข้าสู่ระยะใหม่ที่มีความโปร่งใส, เร็วขึ้น และเปิดโอกาสให้ภาคการเงินทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้

ความตั้งใจของสิงคโปร์ในการใช้บลูมเป็นกลไกกลางสำหรับการโอนระหว่างสกุลเงินและระบบชำระเงินข้ามพรมแดน อาจปูทางสู่การสร้างมาตรฐานการใช้งานร่วมกันสำหรับ ‘เงินดิจิทัลกลาง (CBDC), เหรียญเสถียรภาพ และเงินฝากแบบโทเคน’ ในบริบทโลก MAS ยังเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรใหม่ พร้อมส่งเสริมให้สถาบันการเงินระดับโลกเข้าร่วม เพื่อขับเคลื่อนโครงการนี้ให้เข้าใกล้การใช้งานจริงในระดับพาณิชย์ยิ่งขึ้นในอนาคต.