เมลสตรอมของอาเธอร์ เฮย์สเตรียมระดมทุน 250 ล้านดอลลาร์ ลุยซื้อกิจการคริปโต 6 แห่ง

เมลสตรอม(Maelstrom) บริษัทจัดการสินทรัพย์ของ อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์(BitMEX) เตรียมระดมทุนจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคลวงเงินรวมกว่า *250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,475 ล้านบาท)* เพื่อใช้ในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่ากระแส *เงินทุนส่วนบุคคล* กำลังกลับเข้าสู่วงการคริปโต หลังจากภาวะซบเซาในช่วงที่ผ่านมา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 24 ว่า เมลสตรอมตั้งเป้าจะใช้เงินทุนซื้อบริษัทคริปโตไม่เกินหกแห่ง โดยกำหนดวงเงินลงทุนต่อรายอยู่ระหว่าง *40-75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 556-1,043 ล้านบาท)* พร้อมวางแผนปิดกองทุนภายในเดือนกันยายน 2026 โดยให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจชัดเจน เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐานการซื้อขาย และแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล

อักษัต ไวทยา(Akshat Vaidya) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการกองทุนของเมลสตรอม ระบุว่า นักลงทุนจำนวนมากยัง ‘ต้องการเข้าถึง’ อุตสาหกรรมคริปโตที่มีทั้งกระแสเงินสดแข็งแกร่งและศักยภาพเติบโตสูง แต่ยังขาดความสามารถในด้านนี้ จึงต้องอาศัยกองทุนรูปแบบดังกล่าวช่วยเปิดประตูให้ โดยการบริหารกองทุนครั้งนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลร่วมกันของไวทยา, อาเธอร์ เฮย์ส และพันธมิตรใหม่ อดัม ชเลเกล(Adam Schlegel)

ทั้งนี้ อาเธอร์ เฮย์ส เคยตกเป็นจำเลยร่วมกับผู้บริหารอีกสามคนของบิทเม็กซ์ในข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายป้องกันการฟอกเงินของสหรัฐฯ แต่ได้รับ ‘การอภัยโทษจากทรัมป์’ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นเขากลับมาปรากฏตัวในวงการอีกครั้ง พร้อมแชร์บทวิเคราะห์และมุมมองต่อทิศทางของตลาดคริปโต ซึ่งช่วยฟื้นฟูชื่อเสียงของเขา

การจัดตั้งกองทุนของเมลสตรอมครั้งนี้จึงได้รับความสนใจในฐานะ *สัญญาณแห่งความเชื่อมั่นที่กลับมา* ของกลุ่มทุนส่วนบุคคลต่ออุตสาหกรรมคริปโต นับตั้งแต่เหตุการณ์การล้มละลายของ FTX เมื่อปี 2022 ความเคลื่อนไหวนี้ยังอาจจุดประกายให้เกิดกองทุนลักษณะเดียวกันตามมาในอนาคต โดยเน้น ‘การควบรวมบริษัทที่มีรายได้จริง’ เพื่อลดความเสี่ยง สร้างความมั่นคง และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว