เปิดเผย CPI สหรัฐฯ ล่าช้าเพราะชัตดาวน์ อาจชี้ชะตาดอกเบี้ยเฟด-ราคาคริปโต

ความล่าช้าในการเปิดเผย *ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)* ประจำเดือนกันยายนของสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากภาวะ *การชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง* อาจส่งผลต่อทิศทางของตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้ โดยรายงานดังกล่าวถือเป็น *ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญชุดสุดท้ายก่อนหน้าการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)* ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมนี้

เดิมที CPI มักจะเผยแพร่ในช่วงกลางเดือน แต่ครั้งนี้มีการเลื่อนออกไปเป็นวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 4 วันก่อนประชุมนโยบายการเงินของเฟด ด้านสำนักข่าวโคเบย์ซีเลตเตอร์(Kobeissi Letter) ระบุว่า การเปิดเผย CPI ครั้งนี้จะเป็น “จุดเปลี่ยนที่ชี้ชะตาทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด” พร้อมเน้นว่า “นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มกราคม 2018 ที่ตัวเลข CPI จะถูกประกาศในวันศุกร์” ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่มีรายงานเศรษฐกิจอื่นๆ เผยแพร่จนกว่าการชัตดาวน์จะสิ้นสุดลง

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 24 ถึง 25 ตุลาคม ยังมีรายงานอีกหลายฉบับที่จะถูกเปิดเผย รวมถึงตัวเลข *ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)* ภาคบริการของสหรัฐฯ และ *ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมหาวิทยาลัยมิชิแกน* แม้รายงานอย่างยอดขายบ้านรายเดือนอาจไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อคริปโต แต่ข้อมูลเศรษฐกิจเหล่านี้อาจสะท้อน *“ความเสี่ยงโดยรวมของตลาด”* ที่ส่งอิทธิพลต่อนักลงทุนและราคาคริปโตในทางอ้อม

ด้านเจอโรม พาวเวลล์(Jerome Powell) ประธานเฟด ยังคงส่งสัญญาณระมัดระวังในการปรับดอกเบี้ยครั้งต่อไป พร้อมเปิดช่องความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดยังคงมีอยู่เมื่อ *ทรัมป์* ประกาศแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 100% ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดย *ความคิดเห็น* จากนักลงทุนระบุว่า ความไม่แน่นอนนี้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดคริปโตเพิ่มเติมในระยะสั้น

ด้านตลาดคริปโตเคอร์เรนซี แม้จะขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่เห็นแรงส่งเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยในเช้าวันจันทร์ตามเวลาเอเชีย มูลค่าตลาดรวมคริปโตเพิ่มขึ้นราว 2% แตะระดับ 3.85 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,356.5 ล้านล้านวอน) *บิตคอยน์(BTC)* ขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.60 ล้านบาท) ในวันเดียวกัน ขณะที่ *อีเธอเรียม(ETH)* ก็สามารถรุกผ่านแนวต้านที่ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 556,000 บาท) ได้อีกครั้ง

*ดอจคอยน์(DOGE)*, *คาร์ดาโน(ADA)*, *เชนลิงก์(LINK)* และ *ซุย(SUI)* ต่างก็แสดงแนวโน้มเป็นบวก โดยบางเหรียญฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง นักวิเคราะห์มองว่า “ความผันผวนที่ดูเหมือนจะชะลอลงในตอนนี้ อาจไม่ใช่สัญญาณของการปรับฐาน แต่เป็นช่วงสะสมแรงก่อนเข้าสู่รอบขาขึ้นถัดไป”

ขณะเดียวกัน *เทสลา(TSLA)*, *อินเทล(INTC)* และ *ไอบีเอ็ม(IBM)* เตรียมประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นและตลาดคริปโต โดย *ความคิดเห็น* จากนักเศรษฐศาสตร์หลายรายชี้ว่า “ราว 10% ของบริษัทในดัชนี S&P500 จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนของตลาดการเงินโดยรวม”