ริปเปิล(XRP) ทะลุ EMA 200 วัน เตรียมพลิกกลับขาขึ้นสู่แนวต้าน 3 ดอลลาร์

ริปเปิล(XRP) ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงต้นปี 2025 หลังจากสามารถ ‘ทะลุ’ หนึ่งในแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญที่สุด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะกลาง โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า ริปเปิลได้ทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 200 วัน (EMA 200) ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่สร้างความหวังใหม่ให้กับนักลงทุนหลังจากผ่านช่วงการพักฐานมาอย่างยาวนาน

แนวโน้มล่าสุดของริปเปิลบ่งชี้ว่า การทะลุเส้น EMA ครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงแค่ ‘การกลับตัว’ ของแนวโน้มระยะสั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มระยะกลางที่สำคัญ โดยราคาของ XRP ได้ยืนเหนือระดับแนวรับที่ 2.45 ดอลลาร์สหรัฐอย่างมั่นคง และสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปแตะระดับ 2.61 ดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพตลาดที่ซบเซาและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม

ในแง่ของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ยังอยู่ใกล้ระดับ 50 ซึ่งแปลว่าอยู่ใน ‘โซนกลาง’ ไม่ได้เข้าใกล้ระดับที่บ่งชี้ภาวะซื้อมากเกินไป สิ่งนี้ ‘บ่งชี้ถึงโอกาสที่ราคายังสามารถปรับขึ้นได้อีก’ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของตลาดที่อาจฟื้นกลับมาในระยะสั้น

ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ระบุว่า “สิ่งสำคัญในเวลานี้คือการมีปริมาณการซื้อขายที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้น” กล่าวคือ ราคาที่ปรับตัวขึ้นจะต้องมาพร้อมกับแรงหนุนจากนักลงทุนรายใหม่

แนวต้านถัดไปของ XRP ตามมุมมองทางเทคนิคคือที่ระดับ 2.77 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านจิตวิทยาที่ 3.00 ดอลลาร์สหรัฐ หาก XRP ยังคงยืนเหนือช่วงแนวรับ 2.55–2.60 ดอลลาร์สหรัฐได้ต่อเนื่อง ความเป็นไปได้ในการเคลื่อนไหวขึ้นสู่เป้าหมายเหล่านี้จะมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฉพาะหากกราฟแท่งเทียนรายสัปดาห์สามารถปิดเหนือเส้น EMA 200 วันได้ ตลาดก็อาจเข้าสู่ภาวะกระทิงในระยะกลาง

แต่อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ โดยหากการพยายามทะลุแนวต้านในครั้งนี้ล้มเหลว ราคามีโอกาสปรับฐานลงมายังบริเวณ 2.40 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นการทดสอบแนวรับระยะกลางอีกครั้ง นักลงทุนจึงควรวางแผนจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

ตอนนี้ XRP กำลังอยู่ในจุดตัดสินใจที่สำคัญ หลังจากสามารถผ่านแนวต้านที่แข็งแกร่งไปได้ ความเป็นไปได้ในการเริ่มต้น ‘การปรับขึ้นอย่างจริงจัง’ จะขึ้นอยู่กับท่าทีของนักลงทุนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า