บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะ 107,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขาย-นักลงทุนสถาบันลดความสนใจ

บิตคอยน์(BTC) เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนด้วยแนวโน้มขาลง หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นไปแตะระดับต้น ๆ ของ 110,000 ดอลลาร์ ก่อนร่วงกลับลงมาที่ 107,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.48 ล้านบาท ส่งผลให้ผลกำไรจากการฟื้นตัวในช่วงสุดสัปดาห์ถูกลบหายไปทั้งหมด

อ้างอิงจากข้อมูลของ Cointelegraph Markets Pro และ TradingView เมื่อวันที่ 5 บิตคอยน์เกิดสัญญาณกลับตัวหลังจากที่ราคาดีดตัวขึ้นในวันอาทิตย์ ขณะที่นักเทรดหลายคนออกมาเตือนถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘การปั๊มราคาวันอาทิตย์’ พร้อมระบุว่าความผันผวนที่เกิดขึ้นกำลังบั่นทอนความหวังของตลาดวัวที่ผู้ลงทุนหวังกันไว้

แม้เดือนพฤศจิกายนมักถูกมองว่าเป็นเดือนที่ดีสำหรับบิตคอยน์ แต่บรรยากาศการซื้อขายในขณะนี้กลับไม่แสดงให้เห็นถึงแรงส่งที่ชัดเจน โดยเฉพาะในขณะที่ความคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนส่งผลบวกต่อดัชนีหุ้น กลับไม่ได้ส่งแรงหนุนเดียวกันมายังตลาดคริปโต นอกจากนี้ แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่มั่นใจยิ่งขึ้น

จุดที่น่าวิตกมากกว่านั้นคือ 'ความต้องการจากสถาบัน' ที่ลดต่ำลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยปริมาณที่นักลงทุนสถาบันเข้าซื้อบิตคอยน์มีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับบิตคอยน์ที่ถูกขุดใหม่ ทำให้เกิดภาวะอุปสงค์และอุปทานที่ไม่สมดุล ในขณะเดียวกัน ตัวชี้วัดกิจกรรมบนเครือข่ายก็ยังคงซบเซา นักลงทุนรายย่อยก็เริ่มทยอยถอนตัวออกจากตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนแนวคิดที่ว่า ระดับราคา 110,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.52 ล้านบาท อาจไม่ยั่งยืนในระยะนี้

ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในตลาดระบุว่า การซื้อขายในสัปดาห์นี้อาจยังคงเป็นเรื่องท้าทาย หากแรงขายยังคงมีต่อเนื่องก็อาจได้เห็นราคาปรับลงใกล้ระดับ 105,000 ดอลลาร์ ซึ่งการเคลื่อนไหวในระยะสั้นอาจเป็นเพียงการทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้ง

สำหรับบิตคอยน์ที่จะกลับเข้าโหมดขาขึ้นอีกครั้ง จะต้องพึ่งพา 'ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น' ควบคู่ไปกับสัญญาณเชิงบวกจากปัจจัยพื้นฐาน ในระยะใกล้นี้ กลุ่มนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า บรรยากาศที่นักลงทุนจับตารอดูท่าทีเป็นหลัก ('wait and see') จะยังคงครอบคลุมตลาดคริปโตต่อไป