นักลงทุนเชื่อมั่น! ริปเปิล(XRP) เปิดซื้อหุ้นคืน 1,000 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้ถือหุ้นยังแห่ถือยาว

ริปเปิล(Ripple) เดินหน้าแผนซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้านล้านวอน) แต่กลับพบว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ยังคงถือหุ้นไว้ ไม่เข้าร่วมในข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งสะท้อนถึง ‘ความเชื่อมั่น’ ของนักลงทุนต่อศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของบริษัท โดยเฉพาะหลังจากที่ริปเปิลได้เปรียบในคดีฟ้องร้องกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC)

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ริปเปิลประเมินมูลค่ากิจการที่ประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 52 ล้านล้านวอน) พร้อมเปิดการเสนอซื้อหุ้นคืนแบบประมูล (Tender Offer) เป็นมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยี The Information รายงานว่า อัตราการตอบรับครั้งนี้อยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่บริษัทเคยจัดมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นส่วนมากยังเชื่อในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของบริษัท และเลือกที่จะไม่ขายหุ้นคืน

ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ริปเปิลดำเนินการซื้อหุ้นคืน โดยเมื่อต้นปี บริษัทได้ซื้อหุ้นจากนักลงทุนรายแรกและพนักงานที่ถือหุ้นอยู่เป็นมูลค่า 285 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.7 แสนล้านวอน) โดยประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ประมาณ 11.3 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ซีอีโอของริปเปิล เคยออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการประเมินมูลค่าดังกล่าว โดยระบุว่า ‘ต่ำเกินไป’ และเสนอว่าควรนำสินทรัพย์บิตคอยน์ในรูปแบบของ XRP ที่บริษัทถืออยู่มาร่วมพิจารณาเพื่อตีมูลค่าที่เหมาะสมมากขึ้น

ต่อมาในเดือนมิถุนายน ริปเปิลได้เสนอการซื้อหุ้นคืนครั้งใหญ่มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ โดยเสนอราคาหุ้นละ 175 ดอลลาร์ และล่าสุดได้ยกระดับวงเงินเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังในการตัดสินใจ

ในอีกมิติหนึ่ง ความเป็นไปได้ที่ริปเปิลจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ แม้โมนิกา ลอง(Monica Long) ประธานบริษัท จะออกมาปฏิเสธว่า ‘ยังไม่มีแผนไอพีโอ’ อย่างเป็นทางการก็ตาม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การเสนอซื้อหุ้นคืนก่อนการเข้าตลาด อาจมีเป้าหมายในการเสริมความแข็งแกร่งด้านอำนาจการบริหารของผู้ถือหุ้นหลัก หรือเป็นความเคลื่อนไหวที่เตรียมพร้อมต่อการไอพีโอในระยะยาว

ความคิดเห็น: การตัดสินใจของผู้ถือหุ้นที่เลือกไม่ขายหุ้นในรอบล่าสุด แสดงถึง ‘ความเชื่อมั่น’ ว่าริปเปิลจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยเฉพาะในบริบทที่บริษัทเดินหน้าขยายทรัพย์สินในรูปแบบ XRP และเริ่มเคลื่อนไหวเชิงรุกในการควบรวมกิจการในระดับโลก ซึ่งอาจปูทางให้ริปเปิลกลายเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบครบวงจร’ ในไม่ช้า