หุ้นไซเฟอร์ ไมน์นิ่งพุ่ง 32% หลังจับมือ AWS ลุยโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 1.97 แสนล้าน

ราคาหุ้นของบริษัทขุดบิตคอยน์(BTC) ไซเฟอร์ ไมน์นิ่ง(Cipher Mining) พุ่งขึ้นกว่า *32% ภายในวันเดียว* หลังประกาศความร่วมมือกับ อะเมซอนเว็บเซอร์วิส(AWS) ซึ่งเป็นการจับมือครั้งสำคัญระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมการขุดคริปโต

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ไซเฟอร์ ไมน์นิ่งเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาระยะยาว *15 ปี* กับ AWS เพื่อให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับงานประมวลผล AI โดยจะจัดสรรพื้นที่และพลังงานในรัฐเท็กซัส 2 จุด รวมมูลค่าการลงทุนกว่า *5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ราว 1.97 แสนล้านบาท) โครงการนี้จะแบ่งเป็นสองเฟส เริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2025 ตามลำดับ โดยไซเฟอร์จะให้บริการแบบ *‘Turnkey’* หรือแบบครบวงจร ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงการจ่ายไฟ

นอกเหนือจากข้อตกลงครั้งใหญ่ บริษัทยังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีกว่าคาด โดย *ลดการขาดทุนสุทธิ* จาก 46 ล้านดอลลาร์เหลือเพียง 3 ล้านดอลลาร์ และรายได้ที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มจาก 30 ล้านดอลลาร์เป็น *41 ล้านดอลลาร์* ความเคลื่อนไหวเชิงบวกเช่นนี้ ทำให้ราคาหุ้นของไซเฟอร์ทะยานขึ้นไปแตะระดับ *24.80 ดอลลาร์* ก่อนปิดตลาดที่ *22.76 ดอลลาร์* เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้านั้นถึง *32%*

ความร่วมมือระหว่างบริษัทคริปโตและยักษ์ใหญ่ไอทีเริ่มเป็นแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้น โดยที่ผ่านมาไมโครซอฟท์(MSFT), อัลฟาเบต(GOOGL) และบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นต่างก็เร่งหาพาร์ตเนอร์ในอุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์ เพื่อเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใช้พลังงานต่ำและต้นทุนประหยัดมากขึ้น *ความคิดเห็น:* การที่บริษัทขุดคริปโตมีการใช้พลังงานแบบออฟกริด หรือมีความสามารถในการจัดการพลังงานด้วยตัวเอง ถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดยักษ์ใหญ่เทคไปจับมือด้วย

กรณีของไซเฟอร์จึงสะท้อนแนวโน้มใหม่ที่ *ภาคคริปโตกลายเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำหรับเทคโนโลยี AI* ไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตเหรียญดิจิทัลอีกต่อไป นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญจึงจับตาว่าอาจจะมีดีลลักษณะเดียวกันตามมาอีกในอนาคตอันใกล้