ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวลดลงกว่า 10% แตะระดับราว 96,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) ในช่วงไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม กียงจู ซีอีโอของบริษัทวิจัยข้อมูลบล็อกเชนชื่อดังอย่างคริปโตควอนต์(CryptoQuant) เชื่อมั่นว่าสัญญาณการฟื้นตัวของราคานั้น ‘ปรากฏชัด’ และยังคงมีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดจะกลับตัวขึ้นมาได้ในเร็วๆ นี้
ผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) เขาระบุว่า บิตคอยน์ยังคงได้รับ ‘กระแสเงินทุนไหลเข้า’ อย่างต่อเนื่อง โดยชี้ไปที่ ‘มูลค่าตลาดที่เกิดขึ้นจริง’ (Realized Cap) ซึ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.12 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,524 ล้านล้านวอน) ซึ่งถือเป็น ‘สัญญาณบวก’ เนื่องจากตัวชี้วัดนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อผู้ซื้อรายใหม่เข้าซื้อบิตคอยน์ในราคาที่ยังสูงอยู่ ซึ่งแปลว่าความต้องการซื้อนั้นยังคงมีอยู่แม้ตลาดจะอยู่ในช่วงขาลง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประมาณว่าเงินลงทุนจำนวน 2.6–3.1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 3.5–4.2 ล้านล้านวอน) ได้หลั่งไหลเข้าสู่ระบบของบิตคอยน์
ปัจจัยหนุนถัดมาคือ ‘แรงเทขายจากวาฬรายใหญ่เริ่มเบาบาง’ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ Glassnode แสดงให้เห็นว่าผู้ถือเหรียญระยะยาวกำลังโอนย้ายบิตคอยน์เฉลี่ยวันละ 24,000–27,000 BTC ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยที่เคยเห็นในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกว่าเท่าตัว อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า ปริมาณการเคลื่อนย้ายบิตคอยน์ครั้งละ 1,000–1,400 BTC ต่อชั่วโมง ซึ่งเคยเป็นสัญญาณหลักในช่วงขาลง กลับเริ่มลดน้อยลงในสัปดาห์นี้ หมายความว่า ‘วาฬเก่า’ หรือ OG whale ที่เคยเทขายหนัก อาจเริ่มชะลอตัวลงแล้ว ซึ่งในอดีตก็เคยเป็น ‘สัญญาณแรกของการฟื้นตัว’ เช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ‘สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค’ ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นไปถึง 114,000 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับลงมาที่ระดับกลางๆ ของ 90,000 ดอลลาร์ อันเป็นผลจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง กียงจูเห็นว่าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวม ‘ผ่อนคลายลงเพียง 1%’ ก็เพียงพอที่จะทำให้ราคาบิตคอยน์กลับมาฟื้นตัวได้โดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยอื่นเพิ่มเติม
โดยสรุป ซีอีโอของคริปโตควอนต์ชี้ว่า ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ ของการปรับฐานราคาครั้งนี้ยังไม่พังทลาย และ ‘แรงหนุน’ ที่จำเป็นต่อการฟื้นตัวก็ปรากฏอยู่แล้วทั้งจากข้อมูลบนบล็อกเชนและตัวแปรทางเศรษฐกิจ ขณะที่ในมุมมองของนักลงทุน ควรให้ความสำคัญกับ ‘ทิศทางกระแสเงินทุน’ การเคลื่อนไหวของวาฬ และการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยภายนอก มากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0