ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงราว 25% ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงอีกครั้งในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับ ‘ทฤษฎีวัฏจักร’ ที่เคยอธิบายพฤติกรรมราคาในอดีตว่า ยังสามารถใช้ได้จริงอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ออนเชนรายหนึ่งกลับมองต่างออกไป โดยชี้ว่า การร่วงตัวในรอบนี้มาจากโครงสร้างตลาดที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่ผลจากความกลัวหรือแรงขายตื่นตระหนกแบบเดิมอีกต่อไป
จู คียอง ซีอีโอของคริปโตควอนต์(CryptoQuant) เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า *สาเหตุหลักของการปรับฐานในครั้งนี้มาจากการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ระหว่างผู้ถือบิตคอยน์ระยะยาว* โดยกลุ่ม ‘วาฬ’ ดั้งเดิมเริ่มขายสินทรัพย์ ขณะที่สถาบันการเงินจากโลกดั้งเดิมกลับเข้ามาดูดซับบิตคอยน์เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เขาระบุว่า “นี่ไม่ใช่สัญญาณของวัฏจักรที่ล่มสลาย แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง”
จูยังเสริมว่า ตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2021 บิตคอยน์เคยเคลื่อนไหวตามวัฏจักรที่ชัดเจน แต่เมื่อเข้าสู่ยุคของกองทุน ETF และการเก็บบิตคอยน์ไว้ในงบดุลของบริษัทต่างๆ เช่น ไมโครสเตรทิจี การไหลเข้าของสภาพคล่องเริ่มกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรองรับราคา จึงทำให้ตลาด 'ไม่พัง' แบบอดีต
เขายังเปิดเผยอีกว่า การที่ราคาบิตคอยน์แตะจุดสูงสุดช่วงต้นปี มาจากแรงขายของนักลงทุนยุคแรกที่รู้จักกันในชื่อ ‘วาฬดั้งเดิม’ มากกว่าจะเป็นสัญญาณการเก็บกำไรระยะสั้น โดยการขายดังกล่าวกำลังถูกดูดซับโดย ETF และบริษัทระดับสถาบัน ซึ่งทำให้โครงสร้างตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น
“วาฬยุคเก่ากำลังจากไป ขณะที่ผู้เล่นทุนหนาจากโลกการเงินดั้งเดิมเริ่มเข้ามาครอบครองสัดส่วนตลาดแทน” จูกล่าว พร้อมขยายความว่า *นักลงทุนเหล่านี้ไม่ได้ตื่นตระหนกกับความผันผวนรายวัน* ดังนั้นราคาที่ร่วงลงจึงไม่ใช่สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างวัฏจักรแบบในอดีตอีกต่อไป
เขายังกล่าวอีกว่า ณ วันนี้ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ, กองทุนบำนาญ, ผู้จัดการพอร์ตมัลติแอสเซต และทีมการเงินภายในบริษัทยังคงสร้างช่องทางการลงทุนแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่า *สภาพคล่องในตลาดกำลังหลากหลายขึ้นในเชิงโครงสร้าง*
เมื่อปัจจัยพื้นฐานของตลาดมุ่งไปที่กลยุทธ์ระยะยาวและช่องทางสภาพคล่องมากกว่าการตอบสนองต่อเหตุการณ์ระยะสั้น บรรดาวัฏจักรเดิมๆ ที่นักลงทุนคุ้นเคยในอดีตอาจต้องลาจากเวทีไปอย่างถาวร ความมั่นใจใหม่จึงเกิดขึ้นว่า บิตคอยน์กำลังอยู่ในยุคใหม่ของ ‘โครงสร้างตลาดที่มั่นคงกว่าเดิม’ และ ‘พฤติกรรมราคาที่ไม่ซ้ำรอยเดิม’
ความคิดเห็น 0