ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
วิตาลิก บูเตอริน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) ได้เผยแผนฉุกเฉินต่อการคุกคามด้านความปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม โดยเตือนว่ามีโอกาส 20% ที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถทำลายระบบเข้ารหัสในปัจจุบันได้ภายในปี 2030 และอีเธอเรียมจำเป็นต้องเตรียมการรับมือแบบเชิงรุก
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มคาดการณ์ Metaculus ซึ่งบูเตอรินอ้างถึง พบว่าความน่าจะเป็นที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถเจาะระบบการเข้ารหัสที่มีอยู่ก่อนปี 2030 อยู่ที่ราว 20% โดยค่าเฉลี่ยกลางอยู่ที่ปี 2040 ขณะที่ในงาน Devconnect ที่จัดขึ้นที่บัวโนสไอเรสในปี 2025 เขาได้ย้ำว่าภายในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2028 คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจจะสามารถทำลายลายเซ็นดิจิทัลแบบเส้นโค้งวงรี (ECDSA) ซึ่งเป็นหัวใจของความปลอดภัยบนระบบบล็อกเชนอย่างอีเธอเรียมและบิตคอยน์(BTC) ได้
ภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดจะเริ่มต้นเมื่อ *คีย์สาธารณะ* ถูกเปิดเผยบนเชน ขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีทางคำนวณ *คีย์ส่วนตัว* จากคีย์สาธารณะได้ง่าย แต่บูเตอรินเตือนว่าในอนาคต คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจทำได้ในเวลาเพียงสั้นๆ โดยเขาได้เสนอแผนสำรอง หากสถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น อีเธอเรียมอาจต้อง *ย้อนบล็อก*, ควบคุมบัญชีส่วนบุคคล (EOA) และย้ายสินทรัพย์ไปยังสมาร์ตคอนแทร็กต์วอลเลตที่ต้านทานควอนตัมได้
อย่างไรก็ตาม บูเตอรินเชื่อว่าทางออกที่ดีที่สุดคือ *การเตรียมพร้อมล่วงหน้า* เขาแนะนำให้ค่อยๆ เปลี่ยนผู้ใช้งานทั้งหมดไปยัง *สมาร์ตคอนแทร็กต์วอลเลต* ใช้เทคโนโลยีการลงชื่อที่ต้านทานการประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์ควอนตัม ซึ่งผ่านการรับรองโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐฯ (NIST) และออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมเข้ารหัสได้โดยไม่เกิดความโกลาหล ซึ่งเป็นแนวคิดที่เรียกว่า *ความยืดหยุ่นด้านการเข้ารหัส* (Crypto-agile)
บูเตอรินย้ำว่า แผนเหล่านี้ไม่ใช่เพียงทฤษฎีในห้องวิจัย แต่เป็นมาตรการรับมือจริงต่อสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า ทั้งนี้ *อีเธอเรียม* จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องความต้านทานการเข้ารหัสควอนตัมเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเกรดซอฟต์แวร์ในอนาคต ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อความปลอดภัยของระบบทั้งหมดในยุคที่เทคโนโลยีควอนตัมใกล้เป็นจริง ความเห็น: การตอบสนองเชิงรุกจากโครงการใหญ่เช่นอีเธอเรียมจะมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของตลาดคริปโตโดยรวม
ความคิดเห็น 0