ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
เครือข่ายบล็อกเชน ‘วีเชน(VET)’ มีความเคลื่อนไหวที่สะดุดตาในช่วงไตรมาส 3 ปี 2025 ทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี โครงสร้างเศรษฐกิจแบบสเตคกิ้ง( staking) และการใช้งานบนระบบแบบกระจายศูนย์ ตามรายงานล่าสุดจากเมซซารี่ รีเสิร์ช(Messari Research)
หนึ่งในการอัปเกรดสำคัญคือการเปิดตัว ‘กาแล็กติกา เมนเน็ต’ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม โดยชูจุดเด่นเรื่อง *การคาดการณ์ค่าธรรมเนียมที่แม่นยำ* และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่ดีขึ้น อัปเดตนี้นำเสนอเทคโนโลยีระดับเดียวกับอีเธอเรียมล่าสุด ทั้ง *ระบบค่าธรรมเนียมแบบไดนามิก(VIP-251)*, การรองรับธุรกรรมแบบเฉพาะประเภท, ความเข้ากันได้กับ EVM ของเซี่ยงไฮ้ พร้อมทั้งมีการเผาค่าธรรมเนียม VTHO 100% ส่งผลให้โทเคโนมิกส์มีความ *โปร่งใส* และ *มีประสิทธิภาพมากขึ้น*
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัวระบบ ‘สตาร์เกต’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสเตคกิ้งที่จะพัฒนาโครงสร้างเชิงเศรษฐกิจวีเชนไปอีกระดับ โดยสนับสนุนฟีเจอร์อย่าง *พูลมอบหมาย(delegation pool)*, NFT สำหรับผู้มีสิทธิ์ร่วมสเตค และโมเดลรางวัลแบบ B3TR พร้อมคาดการณ์ผลตอบแทนช่วงเริ่มต้นราว 9% เมซซารี่ระบุว่าแพลตฟอร์มนี้จะช่วยยกระดับความปลอดภัยเครือข่าย พร้อมส่งเสริม ‘การมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน’
วีเชนยังประสบความสำเร็จในด้านกิจกรรมบนเครือข่าย โดยจำนวนแอดเดรสที่มีการใช้งานต่อวันในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 85.2% มาอยู่ที่ 62,800 แอดเดรส ขณะที่ปริมาณธุรกรรม Clause พุ่งขึ้น 32.3% เป็น 370,000 ธุรกรรมหลังจากลดลงสองไตรมาสติดต่อกัน ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย (วัดเป็น VTHO) เพิ่มขึ้น 21.7% ขณะที่ในแง่มูลค่า USD เพิ่มขึ้นเพียง 2.5% เนื่องจากราคาของ VTHO ที่ลดลง
การเปลี่ยนผ่านกลไกฉันทามติจากแบบมีอำนาจ(PoA) ไปสู่ระบบ *แบบมอบหมาย(Delegated Proof-of-Stake: DPoS)* ก็เริ่มต้นขึ้นในไตรมาสนี้ผ่านเครือข่ายทดสอบ ‘ฮายาบูสะ เดฟเน็ต’ ซึ่งได้เริ่มทดสอบการแจกจ่ายรางวัลแบบใหม่และโทเคโนมิกส์เฉพาะสำหรับการสเตค โดยมีแผนจะรวมเข้ากับเมนเน็ตในอนาคตอันใกล้
ในด้าน DeFi มูลค่าทรัพย์สินรวมที่ถูกล็อกไว้(TVL) บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง *815.4%* มาอยู่ที่ 6.1 ล้านดอลลาร์ โดยแพลตฟอร์มหลักอย่างวีเดลิเกต(VeDelegate) มีสัดส่วนถึง 77.8% หรือราว 4.8 ล้านดอลลาร์ของ TVL ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสเตคกิ้งระยะยาวและปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์ม
ในมุมของการเชื่อมโยงข้ามเครือข่าย วีเชนได้ร่วมมือกับ *วันเชน( Wanchain)* เพื่อปรับใช้โครงสร้างแบบครอสเชน โดยสามารถรองรับการทำงานร่วมกับมากกว่า 40 เครือข่าย และมีการบันทึกยอดธุรกรรมครอสเชนสะสมกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันสินทรัพย์สำคัญอย่าง VET, VTHO และ B3TR สามารถถ่ายโอนข้ามเครือข่ายได้มากขึ้น
ข้อมูลตลาดก็สะท้อนการเติบโต: มูลค่ารวมของโทเคนหลัก VET เพิ่มขึ้น 2.2% มาอยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ รั้งอันดับ 57 ของตลาดคริปโต ขณะที่ VTHO ลดลง 15.5% เหลือราว 148.8 ล้านดอลลาร์ จาก *อุปทานที่เพิ่มขึ้นและความผันผวนด้านราคา* อย่างไรก็ตาม เมซซารี่ชี้ว่าแม้ VTHO จะมีราคาลดลง แต่กิจกรรมในเครือข่ายยังคงเติบโต ซึ่งแสดงถึง ‘แนวโน้มความต้องการเชิงโครงสร้าง’
ในการบริหารเครือข่าย วีเชนได้เพิ่มคลาส NFT ใหม่ เช่น ‘ยูเรนัส’ และ ‘เนปจูน’ สำหรับการกำกับดูแล ซึ่งมาพร้อมสิทธิ์ในการโหวตและรางวัลที่สูงขึ้น อีกทั้งโมเดลข้อเสนอและการลงคะแนนในแพลตฟอร์ม ‘วีเบตเทอร์’ ก็ได้รับการปรับปรุงให้โปร่งใสและเปิดรับการมีส่วนร่วมมากกว่าเดิม
ในส่วนของการนำไปใช้งานจริง วีเชนได้จับมือกับบริษัทรักษาความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง *บิตโก(BitGo)* และ *คริปโตดอทคอม(Crypto.com)* เพื่อเพิ่มโครงสร้างการดูแลรักษาทรัพย์สิน พร้อมเข้าร่วมโปรแกรม ‘เรียนรู้และรับรางวัล (Learn & Earn)’ ของเรโวลุต(Revolut) เพื่อเปิดรับผู้ใช้ใหม่ในตลาดกระแสหลัก
เมซซารี่สรุปว่า ก้าวต่อไปของวีเชนจะมุ่งสู่การอัปเกรดใหญ่ในชื่อ ‘เรเนซองส์(Renaissance)’ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับเปลี่ยนผ่านกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยคาดว่าในไตรมาส 4 ปี 2025 วีเชนจะเปิดตัวเมนเน็ต ‘ฮายาบูสะ’ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่ DPoS อย่างสมบูรณ์ ก่อนจะเดินหน้าเข้าสู่เฟส ‘อินเตอร์สเตลลา(Insterstellar)’ ซึ่งรองรับการเรียกใช้งานผ่าน JSON-RPC และการเทียบเคียงกับ EVM อย่างสมบูรณ์
‘ความคิดเห็น’ จากบทวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่า วีเชนกำลังสร้างรากฐานที่มั่นคงในฐานะ *เลเยอร์1 ที่พร้อมใช้งานจริง* ผ่านความก้าวหน้าในหลากหลายมิติ ทั้งเทคโนโลยี กิจกรรมเครือข่าย ความสามารถข้ามเชน ระบบสเตคกิ้ง และธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง
ความคิดเห็น 0