เปเป(PEPE) ถูกแฉรวมเหรียญ 30% ไว้ในมือกลุ่มเดียว กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน

โครงการเหรียญมีมชื่อดังอย่างเปเป(PEPE)กำลังเผชิญกระแสวิจารณ์ หลังจากมีรายงานว่าเหรียญจำนวนมากในช่วงเริ่มต้นถูกรวมศูนย์อยู่ในกระเป๋าเงินบางกลุ่ม ซึ่งสร้างข้อสงสัยเกี่ยวกับ ‘การเป็นเหรียญของประชาชน’ ตามที่เคยโฆษณาไว้ โดยนักวิเคราะห์มองว่าสถานการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้าง

เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนชื่อบับเบิลแมปส์(Bubblemaps) เปิดเผยผ่าน X (อดีตทวิตเตอร์) ว่า เมื่อเดือนเมษายน 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่เปเปเริ่มเปิดตัวใหม่ ๆ มีการรวมเหรียญไว้ราว 30% ของปริมาณทั้งหมดในกระเป๋าเงินกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียว พร้อมชี้ว่า “นักลงทุนถูกหลอกโดยข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง” และตั้งคำถามด้านจริยธรรมของการกระจายเหรียญในลักษณะดังกล่าว

นอกจากนี้ บับเบิลแมปส์ยังเผยว่า กลุ่มกระเป๋าเงินดังกล่าวได้ทำการขายเหรียญออกสู่ตลาดเพียงหนึ่งวันหลังเปิดตัว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 29.4 ล้านบาท ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อแนวโน้มราคาและเชื่อว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้มูลค่าตลาดของเปเปไม่สามารถทะลุระดับ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.76 ล้านล้านบาทได้

การค้นพบครั้งนี้ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่โครงการเปเปเคยสื่อสารมาอย่างหนักแน่นในเรื่องของ ‘การเปิดตัวแบบไม่เปิดเผยล่วงหน้า’ และ ‘ไม่มีการพรีเซลล์’ โดยหน้าเว็บไซต์ทางการของเปเปเคยเน้นย้ำคุณลักษณะทั้งสองนี้อย่างชัดเจน ทำให้ประเด็นความไม่โปร่งใสในการกระจายเหรียญช่วงเริ่มต้นกลายเป็นจุดอ่อนที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนจนยากจะฟื้น

ในระดับอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ากรณีเปเปอาจเป็นตัวอย่างสะท้อนแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับเหรียญมีมตัวอื่นในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเหรียญในหมวดนี้มักโปรโมตภาพลักษณ์ ‘กระจายอำนาจโดยชุมชน’ ซึ่งในความเป็นจริงอาจถูกควบคุมโดยกลุ่มลงมือแบบมีแผนล่วงหน้า หรือกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการถือครองเหรียญจำนวนมาก

*ความคิดเห็น*: การวิพากษ์ครั้งนี้ตอกย้ำความสำคัญของการตรวจสอบโครงสร้างการกระจายเหรียญตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะการตรวจสอบผ่านข้อมูลบนบล็อกเชน ซึ่งช่วยให้ยืนยันได้ว่าไม่มีการรวมศูนย์ความเป็นเจ้าของ อันเป็นหลักการพื้นฐานของเหรียญประเภทนี้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากหลายแหล่งแนะนำให้นักลงทุนที่สนใจเหรียญมีมรุ่นใหม่ควรตรวจสอบสัดส่วนการถือครองของแต่ละกระเป๋าเงินผ่านแพลตฟอร์มสายวิเคราะห์แบบบับเบิลแมปส์ เพื่อป้องกันความเสียหายจากตลาดที่อาจถูกควบคุมได้โดยกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิด ‘การปั่นราคา’ และผลักดันให้นักลงทุนรายย่อยกลายเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในท้ายที่สุด

‘การกระจุกตัวของปริมาณเหรียญช่วงเริ่มต้น’ กลายเป็นความเสี่ยงใหม่ที่นักลงทุนในกลุ่มคริปโตต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะเมื่อเหรียญนั้นอ้างว่ามาจากแนวคิด ‘เพื่อชุมชน’ แล้วแต่กลับพบโครงสร้างที่ขัดกับแนวทางดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง