ศาลสหรัฐไฟเขียวคำฟ้องใหม่ คดี Pump.fun–MEV เขย่าวงการโซลานา(SOL)

ศาลสหรัฐอนุญาตให้โจทก์ในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ ‘แวลูสูงสุดที่สามารถดึงออกได้’ หรือ MEV (Maximal Extractable Value) ซึ่งเกี่ยวพันกับแพลตฟอร์มมำมคอยน์อย่าง Pump.fun นำเสนอหลักฐานใหม่ที่ได้มาเมื่อไม่นานนี้ จุดประเด็นความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวอยู่ในแวดวงบล็อกเชนให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง

คดีนี้ยื่นฟ้องต่อผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Pump.fun, บริษัทโครงสร้างพื้นฐาน MEV อย่าง Jito Labs และมูลนิธิโซลานา(Solana Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนระบบนิเวศของโซลานา(SOL) โดยเมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายโจทก์ได้รับอนุมัติให้แก้ไขคำฟ้องหลังส่งหลักฐานใหม่ซึ่งประกอบด้วยข้อความในการสนทนาภายในมากกว่า 5,000 รายการเข้าสู่สำนวน

ข้อความดังกล่าวถูกรวบรวมโดย ‘ผู้ให้ข้อมูลนิรนาม’ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และไม่เคยปรากฏต่อสาธารณชนมาก่อน โดยฝ่ายโจทก์เผยว่าเนื้อหาในหลักฐานนี้ระบุถึงการติดต่อและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง Pump.fun, โซลานาแล็บส์(Solana Labs) และ Jito Labs เพื่อดำเนินแผนดึงทรัพย์สินจากผู้ใช้บางกลุ่มผ่านกระบวนการที่พวกเขาอ้างว่า "มีการวางแผนและจัดระบบ"

ในคำฟ้องใหม่ระบุว่า ‘เนื้อหาการสนทนาเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงการประสานงาน การตัดสินใจร่วมกัน และการกระทำที่เป็นระบบ’ ซึ่งฝ่ายโจทก์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแค่ความร่วมมือในโครงการทั่วไป แต่เป็นการ "สมรู้ร่วมคิดอย่างเป็นระบบเพื่อแสวงหาผลกำไรโดยไม่โปร่งใส"

MEV คือกระบวนการที่ผู้สร้างบล็อกหรือผู้ดำเนินการโหนดบนเครือข่ายบล็อกเชนสามารถเพิ่มรายได้สูงสุดผ่านการปรับลำดับหรือเลือกธุรกรรมที่มีผลตอบแทนสูง ซึ่งกระทบต่อความยุติธรรมและความโปร่งใสของเครือข่าย และในตลาด DeFi ความเสี่ยงดังกล่าวมีผลต่อผู้ใช้อย่างมาก

Pump.fun เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้นักลงทุนสามารถสร้างมำมคอยน์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในกระแสความนิยมของมำมคอยน์ที่ยึดฐานบนโซลานา ณ เวลานี้ โดยเฉพาะในหมู่นักลงทุนรุ่นใหม่ที่มุ่งหากำไรระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การเชื่อมโยงของแพลตฟอร์มนี้กับปัญหา MEV ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ตรวจสอบความรับผิดชอบทางกฎหมายของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

แม้ว่าคำตัดสินสุดท้ายยังไม่แน่ชัด แต่ "ความคิดเห็น" นี่อาจเป็นคดีตัวอย่างของการกำหนดมาตรการความโปร่งใสในโลกคริปโตที่มักขาดการกำกับดูแลแบบชัดเจน โดยเฉพาะกับโครงการและมูลนิธิที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ เช่น โซลานา ซึ่งหากพบว่ามีความรับผิดตามกฎหมาย ก็อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อโครงการอื่นที่ดำเนินงานในลักษณะใกล้เคียงกัน

‘คำ’ MEV จึงกลายเป็นคำสำคัญที่ไม่ใช่แค่เทคนิคการเพิ่มผลตอบแทน แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นของโครงสร้างที่โปร่งใสและมาตรฐานการดูแลแพลตฟอร์มในโลก Web3 เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง