ความสนใจในริปเปิล(XRP) ลดลงหนัก ท่ามกลางราคาขาลงและไร้ปัจจัยหนุน

XRP ยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและบิตคอยน์ โดยแม้พยายามฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในระยะสั้น แต่โครงสร้างราคาภาพรวมยังคงอยู่ในแนวโน้ม ‘ขาลง’ ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ความเคลื่อนไหวที่จำกัดและการขาดปัจจัยหนุนชัดเจน ส่งผลให้ความน่าสนใจของ XRP ในตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (คู่ XRP/USDT) ราคา XRP ยังคงเคลื่อนไหวภายในกรอบขาลงแบบชัดเจน ถึงแม้จะมีความพยายามดีดตัวขึ้นหลังแตะระดับแนวรับหลักที่ 1.80 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,666 บาท) แต่ทิศทางราคากลับยังคงแสดง ‘ยอดสูงที่ลดลงและจุดต่ำที่ลดลง’ — เป็นสัญญาณของตลาดขาลงโดยทางเทคนิค

ตัวชี้วัด RSI (Relative Strength Index) ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 ซึ่งสะท้อนว่าโมเมนตัมการซื้อยังไม่แข็งแกร่ง ความเป็นไปได้ที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาขึ้นยังค่อนข้างต่ำ หากตลาดไม่เจอปัจจัยใหม่มากระตุ้น มีโอกาสสูงที่ราคาจะอ่อนค่าลงอีกในระยะใกล้

ในส่วนของคู่ XRP/BTC สถานการณ์ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก รูปแบบการเคลื่อนไหวที่เคยแสดงแนวโน้มขาขึ้นช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน ได้พังทลายลง โดยราคาปัจจุบันอยู่ใกล้ระดับ 2,100 ซาโตชิ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันและ 200 วัน (อยู่ที่ช่วง 2,300–2,400 ซาโตชิ) แสดงถึงโครงสร้างตลาดที่อ่อนแอยิ่งขึ้น

แม้ RSI จะแสดงสัญญาณเริ่มเข้าสู่เขตขายมากเกินไป แต่ยังไม่พบ ‘divergence’ หรือสัญญาณฟื้นตัวที่น่าเชื่อถือ หากราคาร่วงต่ำกว่าระดับ 2,000 ซาโตชิ ซึ่งเป็นแนวรับหลักของปีนี้ นักลงทุนอาจเผชิญกับภาวะจิตวิทยาที่เปราะบางมากยิ่งขึ้น ขณะที่ถ้ายังไม่สามารถฝ่าระดับ 2,500 ซาโตชิกลับขึ้นไปได้ XRP ก็จะยังเป็นสินทรัพย์ที่แสดงผลตอบแทน ‘ต่ำกว่าตลาด’ เมื่อเทียบกับบิตคอยน์

เมื่อพิจารณาภาพรวมตลาดคริปโตในตอนนี้ที่เน้นหนักไปที่บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) XRP จึงดูเงียบเหงาอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ความสนใจของผู้ลงทุนและแรงซื้อที่สนับสนุนราคาขึ้น ความเคลื่อนไหวของตัวชี้วัดด้านเทคนิคยังบ่งชี้ถึงภาวะ ‘ไร้แรงเท’ และหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ โอกาสที่ XRP จะกลับมาโดดเด่นในระยะสั้นจึงยังคงน้อยมาก

*ความคิดเห็น*: สำหรับนักลงทุนที่ติดตาม XRP อยู่ในตอนนี้ จุดสำคัญที่ควรจับตาคือระดับแนวรับ 1.80 ดอลลาร์ และ 2,000 ซาโตชิ ทั้งสองจุดนี้เป็นแนวรับหลักในกรอบดอลลาร์และบิตคอยน์ หากราคาทะลุระดับเหล่านี้ลงมา อาจตามมาด้วยแรงขายขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน RSI และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อาจเป็นตัวช่วยยืนยันจุดกลับตัวหากเกิดการฟื้นตัวในอนาคต