ไมเคิล เซลลิกรับตำแหน่งประธาน CFTC คนใหม่ เตรียมเปิดศักราชนโยบายคริปโตสายไม่แข็งกร้าว

ไมเคิล เซลลิก(Michael Selig) เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าของสหรัฐ(CFTC) คนที่ 16 อย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าแนวทางที่เป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของเขาจะเปิดศักราชใหม่ของการกำกับดูแลคริปโตภายใต้ CFTC

เซลลิกได้รับการเสนอชื่อและรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง เขาเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของหน่วยงานพิเศษด้านคริปโตภายใต้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) และเคยเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของคณะกรรมาธิการ SEC โพล แอตกินส์(Paul Atkins) อีกด้วย เขาได้อธิบายสถานการณ์ปัจจุบันว่าเป็น ‘ช่วงเวลาชี้ขาดแห่งการเปลี่ยนผ่านเชิงเทคโนโลยี’ พร้อมสัญญาว่า CFTC ภายใต้การนำของเขาจะวางรากฐานเพื่อสร้างสมดุลระหว่าง ‘นวัตกรรม’ และ ‘การกำกับดูแล’

คาโรไลน์ แพม(Caroline Pham) รักษาการประธาน CFTC คนก่อนหน้า ได้ลงจากตำแหน่งหลังทำหน้าที่มากว่า 4 ปี โดยทิ้งผลงานการปฏิรูปกฎเกณฑ์ในตลาดคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แพมเป็นผู้นำในการเปิดตัวโครงการ ‘Crypto Sprint’ ซึ่งรับรองข้อเสนอแนะของคณะทำงานประธานาธิบดีด้านสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงอนุญาตให้บริษัทซื้อขายล่วงหน้าใช้บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และเหรียญ USD(USDC) เป็นหลักประกันในรูปแบบโครงการนำร่อง

นอกจากนี้ แพมยังมีบทบาทสำคัญในความคืบหน้าของโครงสร้างกฎเกณฑ์สำหรับการซื้อขายแบบสปอต เธอเปิดเผยในแถลงการณ์อำลาว่า ภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำ CFTC ในช่วงเวลาที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเร่งพัฒนา ทั้งยังกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งองค์กรที่ร่วมกันผลักดันเป้าหมายของหน่วยงาน

ในด้านอื่น ๆ ของการทำงาน แพมยังผลักดันให้มีระบบเฝ้าระวังตลาดแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายลงถึง 50 ล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมทั้งปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ CFTC ขณะเดียวกัน เธอยังเป็นผู้นำโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมสภาพคล่องในตลาดพลังงาน และเป็นผู้จัดการการปลดล็อกทุนในตลาดหลายพันล้านดอลลาร์

หนึ่งในผลงานล่าสุดของแพมคือการผ่อนปรนข้อกำหนดด้านกฎระเบียบสำหรับตลาดพยากรณ์ เธออนุญาตให้บริษัท 4 แห่ง ได้แก่ Polymarket US, LedgerX, PredictIt และ Gemini Titan ได้รับ ‘การยกเว้นจากการบังคับใช้กฎระเบียบ’ (No-action relief) เพื่อรองรับความต้องการที่พุ่งสูงของตลาดลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขระบุชัดว่าผู้ให้บริการต้องจัดเตรียมหลักประกันเต็มจำนวน และรักษาความโปร่งใสในการดำเนินงาน ปัจจุบันทั้ง Coinbase และ Robinhood กำลังเตรียมเข้าร่วมในตลาดพยากรณ์ด้วยเช่นกัน

ด้านเซลลิกให้สัญญาว่า จะวางกรอบนโยบายที่ชัดเจนและเป็นมิตรต่อ 'นวัตกรรมอเมริกัน' พร้อมเน้นว่า หน่วยงานกำกับควรเป็น ‘พันธมิตร’ ของเทคโนโลยีใหม่ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยมีบทบาทมากขึ้นในตลาดสินค้า เขาระบุว่า "ภายใต้สถานการณ์ที่สภาคองเกรกำลังเร่งออกกฎหมายสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล CFTC มีหน้าที่สร้างสภาพแวดล้อมที่แข่งขันได้ให้กับสหรัฐ"

เซลลิกยังมีประสบการณ์ทำงานในสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเขาเป็นตัวแทนของบริษัทด้านอนุพันธ์, นายหน้าซื้อขายล่วงหน้า, ผู้ให้บริการตลาด, ผู้ประกอบการคริปโต รวมถึงนักลงทุนสถาบัน ความรู้เชิงลึกล่าสุดเหล่านี้ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจว่าจะสามารถตีความกรอบกำกับดูแลของ CFTC อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลงานใน SEC ของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะบทบาทร่วมสร้างระบบกำกับดูแลแบบบูรณาการระหว่าง SEC และ CFTC รวมทั้งการร่วมเขียนรายงานของคณะทำงานสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้ทำเนียบขาว ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าแนวคิดด้านกฎระเบียบของเขาเป็นไปในทิศทางเดียวกับแพม

ในวันเข้ารับตำแหน่ง เซลลิกประกาศอย่างหนักแน่นว่า “CFTC จะรักษาความเป็นผู้นำของสหรัฐในด้านนวัตกรรมไว้ให้ได้” และเขาจะรับผิดชอบด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของตลาดอนุพันธ์ท่ามกลางภาวะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับการรับตำแหน่งในครั้งนี้ เซลลิกกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ที่ไว้ใจเสนอชื่อเขาในช่วงเวลาสำคัญ พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกวุฒิสภาที่ให้การรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์

ในอีกด้านหนึ่ง แพมหลังจากลงจากตำแหน่ง ได้เข้าร่วมกับมูนเพย์(MoonPay) แพลตฟอร์มรับชำระเงินคริปโตในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายและบริหาร(MCLO/CAO) โดยบริษัทมีแผนขยายบริการรับชำระด้วยสเตเบิลคอยน์สำหรับลูกค้าองค์กร และคาดว่าแพมจะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารความเสี่ยงเชิงนโยบาย

กระแสการเปลี่ยนผ่านของผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายคริปโตเข้าสู่บริษัทภาคเอกชนกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ ซัมเมอร์ เมอร์ซิงเกอร์(Former Commissioner Summer Mersinger) ก็ได้ย้ายไปอยู่กับสมาคมบล็อกเชน ขณะที่ โบ ไฮนซ์(Beau Hines) อดีตผู้เชี่ยวชาญจากทำเนียบขาวก็เข้าร่วมกับเทเธอร์(Tether)

แพมปิดท้ายด้วยคำชื่นชมเซลลิกว่า “แนวคิดเชิงปฏิบัติของไมเคิล เซลลิกจะนำสมดุลมาสู่การกำกับดูแลและนวัตกรรมในตลาด” พร้อมทั้งแสดงความคาดหวังต่ออนาคตของฝ่ายกำกับคริปโตภายใต้การนำของเซลลิกว่า “น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง”