ยูนิสวอป(UNI) เปิดใช้งานระบบแบ่งรายได้ครั้งประวัติศาสตร์ พร้อมเผาโทเคน 100 ล้านเหรียญ

ยูนิสวอป(UNI) เปิดใช้งานระบบแบ่งรายได้จากค่าธรรมเนียมอย่างเป็นทางการหลังจากถกเถียงกันมานานหลายปี โดยเมื่อวันที่ 25 เป็นวันคริสต์มาส ยูนิสวอป DAO ลงมติผ่านข้อเสนอที่เรียกว่า ‘UNIfication’ ด้วยเสียงสนับสนุนถล่มทลาย ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกลไก ‘fee switch’ อย่างสมบูรณ์

การเปิดใช้งานครั้งนี้มาพร้อมกับการ *เผาเหรียญ UNI* จำนวน 100 ล้านเหรียญ และเริ่มแบ่งรายได้ค่าธรรมเนียมจากโปรโตคอลให้กับผู้ถือครองเหรียญ UNI นอกจากเดิมที่รายได้ส่วนนี้สงวนไว้ให้กับผู้ให้บริการสภาพคล่อง (LP) เท่านั้น ไฮเดน อดัมส์(Hayden Adams) ผู้ก่อตั้งยูนิสวอป เปิดเผยทาง X (เดิมคือ Twitter) ว่า “ผลลัพธ์นี้สะท้อนเจตนารมณ์ของชื่อข้อเสนอ UNIfication” พร้อมยืนยันว่า Uniswap Labs จะยุติการเก็บค่าธรรมเนียมฝั่งผู้ใช้งาน และหันมาโฟกัสเฉพาะการพัฒนาโปรโตคอล

ตามกลไกของ DAO ข้อเสนอจะเริ่มมีผลหลังการ time-lock อีก 2 วัน โครงสร้างใหม่ถือเป็นการกำหนดทิศทางใหม่ให้กับ Uniswap โดยเน้นไปที่ ‘การสร้างรายได้’ และ ‘การสะสมมูลค่า’ ให้กับโทเคนอย่างชัดเจน

ยูนิสวอปในฐานะแพลตฟอร์ม DeFi ยักษ์ใหญ่ ยังคง *ติดอันดับต้น ๆ ด้านรายได้จากค่าธรรมเนียม* โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โปรโตคอลสร้างรายได้ไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.44 หมื่นล้านบาท) อยู่ในอันดับที่ 5 รองจากจูปิเตอร์, เมเทโอล่า, เซอร์เคิล และเทเธอร์

การแบ่งรายได้ให้กับผู้ถือโทเคนครั้งนี้ ไม่เพียง *เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารรายได้ของโปรโตคอล* แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ให้กับระบบ DAO และโมเดลเศรษฐกิจของโทเคนแบบกระจายศูนย์

แม้ว่าข้อเสนอจะผ่านพ้นด้วยเสียงสนับสนุนในระดับประวัติศาสตร์ แต่ *ราคาโทเคน UNI ยังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อย* โดย ณ เวลาที่รายงาน เหรียญซื้อขายอยู่ที่ 5.82 ดอลลาร์ ลดลงราว 2% พร้อมมูลค่าตลาดที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งห่างไกลจากจุดสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ 44.92 ดอลลาร์ เกือบ 87%

"ความคิดเห็น" นักวิเคราะห์และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะส่งผลต่อมูลค่าพื้นฐานของ UNI ระยะยาว ไมค์ ซิลลากาเด(Mike Silagadze) CEO จากอีเธอร์ไฟ(EtherFi) คาดการณ์ว่า ปี 2026 จะกลายเป็นยุคของเมตาที่ขับเคลื่อนด้วย ‘รายได้จริงและฐานรากมั่นคง’ โดย *"โทเคนที่มีการสะสมมูลค่าแบบจับต้องได้ จะกลายเป็นผู้นำของตลาดในอนาคต"*

การโหวต ‘UNIfication’ ยังสะท้อน *วิวัฒนาการของการกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์* โดย Uniswap Labs จะโฟกัสเฉพาะด้านการพัฒนาโปรโตคอล ขณะที่หน้าที่การตัดสินนโยบายและการบริหารจะถูกส่งต่อให้ DAO อย่างเต็มรูปแบบ แนวทางนี้ *สอดคล้องกับหลักการกระจายอำนาจของ Web3* ซึ่งเน้นให้ชุมชนมีบทบาทในการตัดสินใจเชิงโครงสร้าง

*คำสำคัญ*: ยูนิสวอป(UNI), fee switch, DAO, ค่าธรรมเนียม, แบบกระจายศูนย์, เผาโทเคน, UNIfication

*ความคิดเห็น*: การนำโมเดลแบ่งรายได้มาใช้อย่างเป็นทางการ อาจกลายเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญในการกำหนดนิยามใหม่ของ ‘มูลค่าโทเคน’ สำหรับแพลตฟอร์ม DeFi ทั่วไป