ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ตลาดกองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) ในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับกระแสเงินไหลออกอย่างหนัก โดยในวันเดียวเมื่อวันที่ 4 มีนาคม มีเงินทุนถูกถอนออกไปถึง 143.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,140 ล้านบาท) ส่งผลให้ความกังวลในตลาดเพิ่มสูงขึ้น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกิดจากข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการสำรองสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาด
ตามข้อมูลจาก Farside ในบรรดากองทุน ETF บิตคอยน์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ FBTC ของฟิเดลิตี(Fidelity) ซึ่งสูญเสียเงินทุนไป 46.08 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,650 ล้านบาท) ขณะที่ ARKB ของ ARK 21Shares ก็เห็นเงินไหลออก 43.92 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,570 ล้านบาท) นอกจากนี้ EZBC ของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน(Franklin Templeton) ยังประสบปัญหาด้วยเช่นกัน โดยมีเงินทุนไหลออกถึง 35.71 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,280 ล้านบาท) แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันจากการขายที่เพิ่มขึ้นในกองทุนเหล่านี้
ในทางกลับกัน กองทุน ETF อีเธอเรียม(ETH) กลับสามารถหยุดแนวโน้มเงินไหลออกที่ดำเนินต่อเนื่องมานานถึง 8 วัน และในวันเดียวกันกลับมามีเงินไหลเข้าสุทธิ 14.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 520 ล้านบาท) โดยเฉพาะ FETH ของฟิเดลิตีที่มีเงินไหลเข้าใหม่ถึง 21.67 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 780 ล้านบาท) และ ETHE ของเกรย์สเกล(Grayscale) ที่ดึงดูดเงินทุนเพิ่มอีก 10.71 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 380 ล้านบาท) บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมาในตลาดอีเธอเรียม
การปรับตัวของราคาบิตคอยน์ได้สร้างแรงกดดันให้เกิดการบังคับปิดสถานะการซื้อขายครั้งใหญ่ โดยในช่วง 24 ชั่วโมง มีสถานะที่ถูกบังคับปิดรวมมูลค่าถึง 479 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17,200 ล้านบาท) ส่งผลกระทบต่อนักเทรดกว่า 159,125 ราย ซึ่งการปิดสถานะที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นที่ไบแนนซ์(Binance) ในคู่เทรด XRP/USDT มูลค่าถึง 6.82 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 240 ล้านบาท)
ขณะที่อีเธอเรียมก็กำลังฟื้นตัว โดยราคาปรับขึ้น 6% กลับมายืนเหนือระดับ 2,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 77,000 บาท) อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,280 ดอลลาร์ (ประมาณ 80,000 บาท) อาจเผชิญแรงขายอีกครั้ง แต่หากสามารถฝ่าแนวต้านนี้ไปได้ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 88,000 บาท)
ตลาดบิตคอยน์และอีเธอเรียมกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างกัน ขณะที่นโยบายเกี่ยวกับคริปโตของรัฐบาลทรัมป์อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น นักลงทุนยังคงจับตานโยบายอย่างใกล้ชิดและระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนใดๆ ในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0