นักวิเคราะห์คาด บิตคอยน์(BTC) อาจแตะ 500,000 ดอลลาร์ อีเธอเรียม(ETH) มีโอกาสทะลุ 20,000 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์คริปโต มิชาเอล ฟาน เดอ โพเพ คาดการณ์ว่า บิตคอยน์(BTC) อาจพุ่งแตะ 500,000 ดอลลาร์ ขณะที่ อีเธอเรียม(ETH) อาจทะลุ 20,000 ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจมหภาคและการเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากสถาบัน

ฟาน เดอ โพเพ ชี้ให้เห็นว่า แม้ตลาดคริปโตจะผ่านช่วงปรับฐานครั้งใหญ่จนทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสั่นคลอน แต่ ‘พายุที่สมบูรณ์แบบ’ กำลังก่อตัวขึ้น เขามองว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังมีท่าทีที่เป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น และสถาบันการเงินก็กำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยเฉพาะหลังจากการถอนคำแนะนำ SAB 121 ของ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ซึ่งนำไปสู่การที่ธนาคารต่างๆ เริ่มให้ความสนใจในการให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงสถานการณ์ที่นักลงทุนจำนวนมากยังคงได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากภาวะตลาดหมีในอดีต ทำให้ไม่เชื่อมั่นต่อแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการเติบโตของบิตคอยน์และอีเธอเรียมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรูปแบบวัฏจักรเดิมเท่านั้น สังเกตได้จากการที่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ ทรัมป์ กำลังเข้าซื้อคริปโตมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงกระแสเงินทุนจากสถาบันที่เพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของปัจจัยมหภาค ฟาน เดอ โพเพ ให้ความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของจีนอาจกระตุ้นให้เกิดตลาดขาขึ้นของอัลท์คอยน์ เขาคาดว่าจีนอาจใช้มาตรการลดค่าเงินหยวนหรือขยายตลาดภายในประเทศเพื่อตอบโต้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ หากเลือกใช้กลยุทธ์ขยายตลาดในประเทศ อาจนำไปสู่การขายดอลลาร์สหรัฐและซื้อคืนเงินหยวน ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และอาจกระตุ้นให้นักลงทุนโยกเงินเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยเขากล่าวว่า “หากดอลลาร์อ่อนค่า ทุนจะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโต”

สำหรับแนวโน้มตลาดในอนาคต เขาได้เสนอสองสถานการณ์ที่เป็นไปได้

1. ‘การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตามมาด้วยการปรับฐาน’ คล้ายกับวิกฤตดอทคอม โดยฟาน เดอ โพเพ คาดว่าบิตคอยน์อาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 300,000 - 500,000 ดอลลาร์ภายในระยะเวลาอันสั้น ก่อนจะเผชิญกับการปรับฐานครั้งใหญ่ ขณะที่อีเธอเรียมก็มีโอกาสทะลุระดับ 20,000 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้ามาลงทุนของสถาบัน นอกจากนี้ การที่อีเธอเรียมเริ่มใช้กลยุทธ์การตลาดภายใต้โครงการ ‘Etherealize’ ที่มุ่งเป้าสู่ตลาดสถาบัน อาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นราคาได้

2. ‘ซูเปอร์ไซเคิลขาขึ้นแบบยาวนาน’ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ตลาดแข็งแกร่งต่อเนื่องโดยไม่มีการปรับฐานรุนแรง ในกรณีนี้ ฟาน เดอ โพเพ คาดว่าบิตคอยน์อาจแตะระดับ 1,000,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่ปี ส่วนอีเธอเรียมมีโอกาสทะลุ 30,000 ดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของโซลูชันเลเยอร์ 2 และการนำผลิตภัณฑ์การเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi) มาใช้ในภาคสถาบันมากขึ้น

ฟาน เดอ โพเพ กล่าวปิดท้ายว่า “ตลาดขาขึ้นรอบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของวัฏจักร แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนโดยปัจจัยมหภาคและการเข้าร่วมของสถาบัน นักลงทุนควรมองภาพรวมระยะยาวแทนที่จะกังวลแค่ความผันผวนในระยะสั้น”