สหรัฐฯ ถกแนวคิดทุนสำรองบิตคอยน์ ท่ามกลางกฎระเบียบคริปโตที่เข้มงวดขึ้น

สหรัฐฯ เร่งผลักดันกฎระเบียบคริปโต ขณะถกแนวคิดทุนสำรองบิตคอยน์

ท่ามกลางการผลักดันกฎระเบียบด้านสกุลเงินดิจิทัลของสภาคองเกรส สหรัฐฯ ยังคงมีความสับสนเกี่ยวกับ ‘ทุนสำรองบิตคอยน์(SBR)’ และ ‘กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ(SWF)’

เมื่อวันที่ 4 เดวิด แซกส์ เจ้าหน้าที่นโยบายคริปโตของสหรัฐฯ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า "กลุ่มทำงานด้านคริปโตของสภาคองเกรสกำลังพิจารณาแนวคิดทุนสำรองบิตคอยน์ ซึ่งควรมองเป็นเรื่องแยกจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ"

โดยทั่วไป กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเป็นกองทุนที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นจากรายได้จากน้ำมันหรือดุลการค้าเกินดุล โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจระยะยาว กองทุนเหล่านี้มักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หุ้น หรือโครงสร้างพื้นฐาน และมีแนวทางที่แตกต่างจากนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ด้วยเหตุนี้ แซกส์จึงเน้นย้ำว่า "ไม่ควรสับสนระหว่างกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติกับทุนสำรองบิตคอยน์" ทั้งนี้กองทุนความมั่งคั่งไม่ได้ถือสินทรัพย์ใดเป็นทุนสำรอง แต่มีวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจที่กว้างกว่า

ปัจจุบัน หลายรัฐในสหรัฐฯ กำลังบริหารกองทุนในลักษณะกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ตัวอย่างเช่น ‘กองทุนถาวรอะแลสกา’ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1976 ใช้รายได้จากน้ำมันเพื่อสนับสนุนงบประมาณรัฐและจ่ายเงินปันผลให้ประชาชน หรือ ‘กองทุนเพื่อการศึกษาถาวรของเท็กซัส’ ซึ่งใช้รายได้จากน้ำมันและก๊าซเพื่อสนับสนุนการศึกษาของรัฐ ขณะที่รัฐไวโอมิงและนอร์ทดาโคตาก็มีการลงทุนในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากการบริหารกองทุนแบบดั้งเดิม บางรัฐเริ่มผลักดันกฎหมายเพื่อจัดสรรบิตคอยน์เป็นทุนสำรอง รัฐอย่างแอริโซนาและยูทาห์เป็นแนวหน้าของแนวทางนี้ โดยปัจจุบันมี 15 รัฐที่เสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ร่างกฎหมายของแอริโซนากำหนดให้สามารถจัดสรรเงินทุนสาธารณะสูงสุด 10% ไปเป็นทุนสำรองบิตคอยน์ แต่จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อมีการจัดตั้งโครงการระดับรัฐบาลกลาง นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับ ‘ร่างกฎหมายบิตคอยน์’ ที่เสนอโดยซินเทีย ลูมิส วุฒิสมาชิกจากไวโอมิง

ขณะที่ร่างกฎหมายของยูทาห์อนุญาตให้รัฐลงทุนสูงสุด 10% ของกองทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเน้นการคุ้มครองสิทธิในการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตนเอง(Self-Custody) อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะบิตคอยน์ แต่ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทุนสำรองบิตคอยน์ในนอร์ทดาโคตาและไวโอมิงยังไม่ประสบความสำเร็จในการผ่านสภานิติบัญญัติ

เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มที่หลายรัฐให้ความสนใจในการถือครองบิตคอยน์เป็นทุนสำรอง กลายเป็นคำถามว่า ‘เมื่อไร’ และ ‘อย่างไร’ แทนที่จะเป็น ‘เป็นไปได้หรือไม่’ อย่างไรก็ตาม อนาคตของแนวคิดนี้ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนทางการเมือง สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ และแนวโน้มของตลาดว่าจะนำไปสู่การถือครองบิตคอยน์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลหรือไม่