SEC อาจยกเลิกแผนรวมบริษัทคริปโตเข้ากับกฎหลักทรัพย์ดั้งเดิม

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) อาจยกเลิกแผนการที่จะรวมบริษัทคริปโตเข้าภายใต้ข้อบังคับเดียวกับตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม มาร์ก อุเอยะดะ(Mark Uyeda) รักษาการประธาน SEC ได้ขอให้ทีมงานพิจารณาการถอนบางส่วนของร่างกฎระเบียบที่เสนอออกไป

SEC ได้ผลักดันการแก้ไขกฎเกณฑ์ตั้งแต่ปี 2022 โดยขยายคำจำกัดความของระบบการซื้อขายทางเลือก (ATS) เพื่อรวมบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 ที่งานประชุมของสมาคมการเงินระหว่างประเทศ อุเอยะดะกล่าวว่า "มีความคิดเห็นเชิงลบจำนวนมากเกี่ยวกับการขยายคำจำกัดความของตลาดซื้อขายคริปโต" และระบุว่า ขณะนี้ SEC กำลังพิจารณา 'การถอน' บางส่วนของข้อบังคับดังกล่าว

กฎระเบียบนี้เดิมทีเกิดขึ้นในปี 2020 โดย เจย์ เคลย์ตัน(Jay Clayton) ประธาน SEC ในขณะนั้น ซึ่งตั้งใจจะควบคุมตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ต่อมาเมื่อ แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) เข้ารับตำแหน่ง แนวทางการบังคับใช้ก็เปลี่ยนมาให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมคริปโตอย่างกว้างขวาง อุเอยะดะกล่าวว่า "กฎระเบียบใหม่ได้ขยายคำนิยาม 'ตลาดซื้อขาย' มากเกินไปจนรวมถึงโปรโตคอลที่เกี่ยวข้องกับคริปโต" และระบุว่า SEC อาจใช้แนวทางที่ 'ยืดหยุ่น' กว่าที่ผ่านมา

ภายใต้การบริหารของเกนส์เลอร์ SEC มีท่าทีแข็งกร้าวต่ออุตสาหกรรมคริปโต โดยได้ดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 100 แห่งตั้งแต่ปี 2021 จนถึงเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และเกนส์เลอร์ลาออก ทิศทางของ SEC ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป โดยล่าสุด SEC ได้ถอนฟ้องบริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น คราเคน, เจมิไน และ คัมเบอร์แลนด์ DRW ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายที่ 'ผ่อนปรน' มากขึ้นต่ออุตสาหกรรมคริปโต

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงภายใน SEC ก็เริ่มปรากฏชัดขึ้น โดย เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) ซึ่งได้รับฉายาว่า ‘คริปโตมัม’ ได้จัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจด้านคริปโตขึ้นมา เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนสำหรับกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล บรรดาผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกำลังจับตาดูว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะนำไปสู่ 'การผ่อนปรน' กฎระเบียบคริปโตอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่