แบล็คร็อกเปิดตัว ETP บิตคอยน์ในยุโรป ดันการแข่งขันตลาดคริปโตเดือด

แบล็คร็อกเดินหน้าขยายตลาดคริปโตในยุโรปด้วยการเปิดตัว ETP ที่เชื่อมโยงกับบิตคอยน์

เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) Bloomberg รายงานว่า แบล็คร็อก บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบ Exchange-Traded Product (ETP) ที่เชื่อมโยงกับบิตคอยน์(BTC) ในสวิตเซอร์แลนด์ นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทขนาดใหญ่นี้เข้าสู่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของยุโรปอย่างจริงจัง

การตัดสินใจครั้งนี้ดูเหมือนจะได้รับแรงผลักดันจากความสำเร็จของ ‘iShares Bitcoin Trust (IBIT)’ ซึ่งเป็นกองทุนที่บริหารอยู่ในสหรัฐฯ ปัจจุบัน IBIT มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท) ทำให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์บิตคอยน์ ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แม้ว่ายุโรปจะมีผลิตภัณฑ์ ETP ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตมาหลายปีแล้ว แต่การเข้าร่วมของแบล็คร็อกน่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด บริษัทมีสินทรัพย์ ETF ที่บริหารอยู่ทั่วโลกรวมกันกว่า 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 158 ล้านล้านบาท) และด้วยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเข้ามาของแบล็คร็อกอาจดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนสถาบันได้เป็นจำนวนมาก

ปัจจุบัน ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในอเมริกาเหนือกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์ ETP ในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 116,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.1 ล้านล้านบาท) ในขณะที่ตลาดยุโรปซึ่งมีมูลค่า 17,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 620,000 ล้านบาท) ยังห่างไกลจากระดับดังกล่าว

ลาร์รี ฟิงค์ (Larry Fink) CEO ของแบล็คร็อก ได้กล่าวในงานประชุมเศรษฐกิจโลกที่ดาวอส (WEF) ว่าบิตคอยน์สามารถเป็น ‘เครื่องมือลดความเสี่ยงจากค่าเงินที่ลดลง’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบรรดาสถาบันทางการเงินชั้นนำของโลกเริ่มมองคริปโตในแง่บวกมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กฎหมาย ‘MiCA’ ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อกำกับดูแลตลาดคริปโตให้มีความชัดเจนมากขึ้น ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ ETP ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตกว่า 160 รายการที่เปิดให้ซื้อขายในยุโรป ดึงดูดความสนใจของสถาบันการเงินและนักลงทุนรายใหญ่อย่างต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวของแบล็คร็อกครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณของการแข่งขันที่ทวีความร้อนแรงขึ้นในตลาดยุโรป คาดการณ์ว่า การเปิดตัว ETP ใหม่นี้อาจกระตุ้นให้มีการแข่งขันด้านค่าธรรมเนียมที่มากขึ้น โดยปัจจุบัน บางผลิตภัณฑ์ในตลาดปรับลดต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่า 2.5% แล้ว

ในขณะเดียวกัน ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำอย่าง Kraken และ Bitstamp กำลังเร่งขยายบริการในยุโรปด้วยการขอใบอนุญาตสำหรับผลิตภัณฑ์ตราสารทุนและอนุพันธ์ที่อิงกับสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้การแข่งขันในตลาดยุโรปรุนแรงยิ่งขึ้น โดยนักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาดูผลกระทบของการเข้าสู่ตลาดครั้งนี้ของแบล็คร็อกอย่างใกล้ชิด