เดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี(CTO) ของริปเปิล(XRP) ได้กล่าวถึงผลกระทบของข้อพิพาททางกฎหมายกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) ที่มีต่อบริษัท รวมถึงแนวโน้มในอนาคต
ชวาร์ตซ์กล่าวในงาน ‘ออนโด ไฟแนนซ์ ซัมมิต 2025’(Ondo Finance Summit) ว่า "เมื่อสี่ปีก่อน SEC ยื่นฟ้องริปเปิล หลายคนคิดว่าริปเปิลจบสิ้นแล้ว” พร้อมย้อนถึงช่วงเวลาสำคัญนั้น อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า วิกฤติดังกล่าวกลับทำให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ระหว่างที่กำลังต่อสู้ทางกฎหมาย ริปเปิลยังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา XRP สามารถทำผลงานได้ดีในกลุ่มสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ชวาร์ตซ์เน้นว่าการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันกำลังเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้คริปโตเคอร์เรนซีเข้าสู่กระแสหลัก "เดิมทีเราเคยเชื่อว่านักลงทุนรายย่อยจะเป็นกลไกหลักในการนำบล็อกเชนไปสู่ตลาดกระแสหลัก แต่ปัจจุบัน สถาบันต่างๆ กำลังก้าวเข้ามาและกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการยอมรับในวงกว้าง"
นอกจากนี้ เขายังวิเคราะห์ว่าการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในสหรัฐฯ กำลังส่งผลต่อภาพรวมของตลาดโลก หลายประเทศเริ่มหันมาส่งเสริมนวัตกรรมด้านบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งนำไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ
ชวาร์ตซ์สรุปว่าริปเปิลกำลังมองหาโอกาสในการทำธุรกิจภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจะยังคงเป็นผู้นำตลาดผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ต่อไป
ความคิดเห็น 0