ราคาทองคำพุ่งทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ขณะที่บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

ราคาทองคำทะลุ 3,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะที่บิตคอยน์(BTC) ร่วงลง

ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำคือ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อ และการเข้าซื้อทองคำจำนวนมากโดยธนาคารกลางทั่วโลก ทั้งนี้ ธนาคารกลางสะสมทองคำเกิน 1,000 ตันต่อเนื่องเป็นปีที่สาม ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นและกดดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น

ตรงกันข้าม บิตคอยน์ซึ่งมักถูกเรียกว่า ‘ทองคำดิจิทัล’ กลับร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เทียบกับทองคำแล้ว มูลค่าของบิตคอยน์กำลังลดลง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในการเป็นทางเลือกแทนสินทรัพย์ปลอดภัย ปีเตอร์ ชิฟฟ์(Peter Schiff) นักลงทุนชื่อดังและผู้สนับสนุนทองคำ ย้ำถึงมุมมองของเขาว่า "บิตคอยน์จะถูกกลืนโดยทองคำ" พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ศักยภาพของคริปโต

อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายมองว่าการปรับตัวลงของบิตคอยน์เป็นเพียงการ ‘ย่อตัว’ ระยะสั้น รายงานจากคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าตัวชี้วัดสำคัญบนบล็อกเชนจะแสดงสัญญาณตลาดขาลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์กับตลาดการเงินแบบดั้งเดิมกลับลดลง ซึ่งอาจหมายความว่าบิตคอยน์ไม่ได้ทำตัวเหมือนสินทรัพย์เสี่ยงเสมอไป

นักลงทุนกำลังพิจารณาบทบาทของทองคำและบิตคอยน์ในพอร์ตการลงทุนของพวกเขา ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจปัจจุบัน แม้ว่าทองคำยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาความมั่นคง แต่ทิศทางของบิตคอยน์ยังเป็นที่จับตามองว่าจะสามารถฟื้นตัวและรักษาสถานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ ได้หรือไม่